หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) : กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย


เรามาเรียนรู้เรื่อง “กรดไขมัน” กันก่อน ไขมันที่อยู่ในอาหารประกอบด้วยกรดไขมัน (fatty acid) ที่สามารถแบ่งตามโครงสร้างทางเคมี ได้ดังนี้
1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acid) คือ ไขมันที่มีโครงสร้างคาร์บอนเรียงจับกันครบ ไขมันชนิดนี้ร่างกายสามารถสร้างได้เอง  มีอยู่ในอาหารจำพวกที่ เราเห็นเป็นชั้นสีขาวติดอยู่ในเนื้อสัตว์ หรือหนังสัตว์ปีก ไข่แดง น้ำมันหมู เนย นม ผลิตภัณฑ์จากนม รวมถึงน้ำมันที่ได้จากพืชบางชนิดก็เป็นแหล่ง
ไขมันอิ่มตัวด้วย เช่น กรดไขมันพาลมิติก (palmitic) ที่มีมากในน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้เกิดโคเรสเตอรอลในเลือดสูง เกิดการอุดตันของเส้นเลือด เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด  
2. ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) คือไขมันที่ธาตุคาร์บอนยังมีเหลือสามารถจับกับธาตุไฮโดรเจนได้ แบ่งออกเป็น
      2.1 กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว monounsaturated fatty acid (MUFA) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสร้างได้เอง ได้แก่ กรดไขมันโอเลอิก (Oleic acid) ที่เรียกว่า “โอเมก้า-9 หรือเลซิติน” ซึ่งเรามักพบในน้ำมันมะกอกเป็นจำนวนมาก น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย และน้ำมันข้าวโพด ((รวมทั้งในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์))

  2.2 กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน polyunsaturated fatty acid (PUFA) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง (เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย) แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

      2.2.1 กรดไขมันไลโนเลนิค (Linolenic acid) ที่เรียกว่า “โอเมก้า-3 หรือ “น้ำมันปลา” เช่น อีพีเอ (EPA) และดีเอชเอ (DHA) ซึ่งพบได้จากปลาทะเลน้ำลึก และมีในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ด้วยเช่นกัน

      2.2.2 กรดไขมันไลเลอิค (Linoleic acid) ที่เรียกว่า “โอเมก้า-6” ซึ่งพบมากในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส และมีมากในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์


คุณประโยชน์ของ โอเมก้า 3-6-9
โอเมก้า 3 (Linolenic หรือ Alpha Linoleic Acid) 
Omega-3  เป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น 
ในเยื่อหุ้มเซลล์ของมนุษย์นั้น จำเป็นที่จะต้องอาศัยกรดไขมันดังกล่าวในการสังเคราะห์เป็นโครงสร้างเซลล์ รวมถึงการยึดเกาะกันของเซลล์ต่างๆ  เพื่อทำให้ร่างกายมีโครงสร้างเซลล์ที่แข็งแรงมากขึ้น  นอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมการขนส่งสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงทั่วร่างกาย  เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ  ดังต่อไปนี้ :-
1.      ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและอัมพาต ลดการอักเสบของโรคไขข้อเสื่อม โรครูมาตอยด์
2.      ลดอาการปวดหัวไมเกรน ปวดประจำเดือน
3.      เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดอาการของโรคภูมิแพ้
4.      ลดโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอร์ไรด์ และเพิ่ม HDL ในเลือดได้
5.      มี DHA ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเซลล์ส่วนสมอง ช่วยบำรุงสมอง
6.      นำ EPA นำไปเสร้าง Prostaglandins-3 ซึ่งทำให้เกร็ดเลือดไม่เกาะกัน และนำไปสร้าง Tromboxan-3 ซึ่งมีผลต่อการเกาะของเกร็ดเลือดน้อยมาก จึงช่วยทำให้เกร็ดเลือดไม่แข็งตัวง่าย

โอเมก้า 6 (Linoleic Acid)
1.      ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โดยการลดการแข็งตัวของเลือดด้วย การลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดทำให้หลอดเลือดที่หัวใจเป็นปกติ*
2.      ลดอัตราการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
3.      ลดการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
4.      สามารถช่วยบำรุงตับและใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่ดื่มสุรา หรือเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
5.      ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ โดยลดการแข็งตัวของเยื้อหุ้มเม็ดเลือดแดง ทำให้สมองได้รับอ๊อกซิเจนมากขึ้น
6.      ลดระดับโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ แต่เพิ่มระดับ HDL ในเลือด

*ผลงานการวิจัยโดย Dr.William Harris เผยแพร่ในวารสาร Journal of the American Heart Association กล่าวว่า การเพิ่มอาหารที่มีโอเมก้า-6 เข้าไปในอาหารที่เรารับประทานเป็นประจำนั้น สามารถช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างง่ายดาย  โดยพบว่ากลุ่มทดลอง ที่รับประทานอาหารโอเมก้า-6 นั้น เป็นโรคหัวใจในระดับที่ต่ำกว่า และตัวเลขแสดงจำนวนครั้งที่เกิดหัวใจวายต่ำกว่า  ส่วนอีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มควบคุม พบว่ากลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจนั้นมีระดับกรดไขมันโอเมก้า-6 ในเลือดต่ำกว่าคนปกติที่มีสุขภาพดี

โอเมก้า 9 (Oleic Acid)
1.      ลดคอเลสเตอรอลโดยรวม ทำให้เส้นเลือดไม่อุดตัน ไม่เป็นโรคหัวใจ
2.      บำรุงสมองช่วยให้ความจำดี ไม่เป็นโรคสมองเสื่อม ไม่เป็นโรคพาร์กินสัน
3.      ช่วยลดความอ้วนได้ดีด้วย
4.      ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และบำรุงผิวพรรณ

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil)
ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ มีส่วนประกอบของไขมัน 35-38% (แยกเป็นสัดส่วนของ ไขมันอิ่มตัว 18.1% และไขมันไม่อิ่มตัว 81.9%)  ซึ่งรวมทั้งกลุ่มไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย และร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ได้แก่ โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6

อย่างไรตาม กรดไขมันทั้งหลายถือได้ว่า เป็นอาหารที่ร่างกายต้องการนำไปใช้ประโยชน์  เพื่อให้พลังงานต่อร่างกาย ซึ่งบางประเภทได้รับมากเกินไปก็ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย และในประเภทกลุ่มไขมันที่จำเป็น ก็จะต้องรับในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงจะเสริมฤทธิ์ในการทำงาน และช่วยหักล้างผลเสียของไขมันในกลุ่มอื่น โดยส่วนตัวของผู้เขียนมีความเห็นว่า การทดสอบทางวิทยาศาสตร์ คงจะไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ร่างกายของเราต้องการไขมันชนิดใด มากเท่าใด??  จึงจะเพียงพอที่จะนำไปใช้ประโยชน์ และก่อให้สมดุลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย  แต่โดยความเชื่อมั่นส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนมีความมั่นใจว่า ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์นั้น พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมของกลุ่มไขมันต่าง ๆ ที่มีอยู่ในฮับบาตุซเซาดะฮ์ไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว  

ดังนั้น มันจึงเป็นสมุนไพรที่นำมาใช้ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้เป็นอย่างดียิ่ง และเป็นสมุนไพรที่บำบัดรักษาได้ทุกจริง  และคงไม่มีผู้ใดอาจล่วงรู้ได้ถึงความลับที่อยู่ในตัวของมัน 
“ฮับบาตุซเซาดะฮ์ สมุนไพรแห่งความจำเรญ” HABBA AL BARAKA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ