หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ สามารถรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV) ได้

ณ วันนี้เราอาจจะพูดได้ว่า แทบไม่ต้องใช้วิธีการทางการแพทย์ในการ “รักษาโรค”  เนื่องจากมีกรณีศึกษาที่น่าทึ่งเกี่ยวกับ “ผู้ป่วยเอดส์ HIV Nagative” ที่สามารถบำบัดรักษาด้วยการใช้สารสกัดจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ เมล็ดสีดำ (Black Seed) และได้ผลในการบรรเทาอาการอย่างต่อเนื่อง จึงแสดงให้เห็นทางเลือกที่ปลอดภัย ซึ่งผู้คนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยราคาที่ไม่แพง แทนที่การใช้ยาต้านไวรัส HIV ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งให้ผลข้างเคียงในความเป็นพิษสูงมาก



Nigella Sativa ที่เราเรียกว่าเป็น ฮับบาตุซเซาดะฮ์  หรือ Black Seed ได้มีการศึกษากันอย่างจริงจังและกว้างถึงคุณสมบัติและประโยชน์ของมันที่มีผลต่อสุขภาพ  และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ค้นพบสัญญาณหนึ่ง ซึ่งเชื่อได้ว่า ฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed) สามารถเป็นตัวแทนในการรักษาโรคที่อาจเกิดการติดเชื้อไวรัสร้ายแรง รวมทั้งไวรัสตับอักเสบซี [i] และปัจจุบันนี้ (ปี 2013 ปีที่เขียนบทความ) สามารถรักษาโรคเอดส์ (HIV)

จากกรณีศึกษาที่น่าทึ่ง ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนสิงหาคมของปีนี้ (ปี 2013) ในวารสาร African Journal of Traditional, Complementary, and Alternative Medicine  กล่าวว่า ผู้ป่วยเอดส์ (HIV) หลังจากได้รับการรักษาด้วยสารสกัดจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed)  มีผลลัพธ์สามารถฟื้นคืนสุขสภาพได้อย่างสมบูรณ์  โดยไม่มีการตรวจพบเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือสารแอนติบอดี้ ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านเชื้อ HIV ในซีรั่มเลือดของพวกเขา ทั้งในระหว่างการรักษาและระยะยาวหลังการรักษาสิ้นสุดการรักษา [ii]

นี่เป็นข้อสังเกตที่น่าทึ่งและไม่อาจคาดคิดมาก่อน จากการอธิบายของนักวิจัยและทีมงาน ดังนี้ 
"Nigella sativa หรือ ฮับบาตุซเซาดะฮ์ ได้รับการรับรองว่า มีฟังก์ชั่นในการรักษาจำนวนมาก ที่ถือได้ว่าเป็นยารักษาโรค  ซึ่งอย่างน้อยที่สุดก็คาดได้ว่า มันสามารถสร้างปรากฏการณ์พลิกกลับที่ทำให้ ค่าการติดเชื้อ HIV เป็นศูนย์ (0) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แม้จะมีการรักษากันอย่างกว้างขวาง ด้วยการใช้ยาต้านไวรัส (HAART)"

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการรักษาโดยทั่วไป ที่เป็นมาตรฐานของการดูแลรักษาโรคเอดส์ทั่วโลก รักษาด้วยยาต้านไวรัส ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมาก  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบต่อสุขภาพอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) นี่คือความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการติดเชื้อ และได้รับการบำบัดรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม พบว่าการทำงานของเลือดยังไม่มีอาการอื่นใด  ผู้ป่วยยังคงมีสุขภาพดี  แต่การรักษาด้วยยาเป็นประจำ จะมีผลให้เชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถที่จะกลายพันธุ์ และมีความต้านทานที่แข็งแกร่งต่อยา หรือเรียกว่า “การดื้อยา” มากขึ้นของเชื้อ HIV ที่อยู่ในร่างกาย  ขณะที่ในเวลาเดียวกัน “ยา” ที่ใช้ได้สร้างความเสียหายที่รุนแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยอย่างน่าเศร้า  ทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันลดลง และถึงแก่ความตายในที่สุด

"โรค" โดยตัวของมันเอง ก็เป็นปัญหาที่รู้จักกันดีว่า เราประสบกับความล้มเหลว เช่นเดียวกับการทำสงครามกับมะเร็ง ที่ 'เหยื่อ' (ผู้ป่วย) และ 'โรคมะเร็ง' ได้รับความล้มเหลวไม่หยุดหย่อน และแม้ว่าจะมีการส่งเสริมในเรื่องของการให้เคมีบำบัด การฉายรังสี และการผ่าตัด ก็ตาม

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในสมัยโบราณเราจึงใช้อาหารเป็นเสมือนการรักษาโรค ดังเช่นที่เราใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ เมล็ดสีดำ (Black Seed) ซึ่งการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โดยทั่วไปการใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์ เป็นยาในการบำบัดรักษาโรค มีความปลอดภัย ราคาไม่แพง และสามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถรักษาโรคเอดส์ (HIV) ได้ ซึ่งถือว่าเป็นที่เรื่องที่น่าตื่นเต้นทีเดียว


ผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV) ฟื้นคืนเป็นปกติอย่าง 'ปาฏิหาริย์'
เริ่มแรกของการศึกษาทดลอง ผู้ป่วยมีอาการโดยทั่วไปที่พบได้ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยมีประวัติ เป็นไข้เรื้อรัง ท้องเสีย น้ำหนักลดในระดับปานกลาง และมีอาการคันแผล เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ในระหว่างการศึกษาทดลอง ผู้ป่วยได้รับยา ร่วมกับการรับประทานน้ำมันฮับบบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) 10 MLS วันละสองครั้ง เป็นเวลา 6 เดือน

ผลการทดลองพบว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื้อไวรัสลดลงในระดับที่เชื่อถือได้ (significant) มีนัยยะสำคัญทางสถิติ

"ไข้ท้องเสีย และอาการคันแผลหายไป เมื่อวันที่ 5, 7 และ 20 วันตามลำดับ ในการรักษาด้วย Nigella sativa หรือฮับบาตุซเซาดะฮ์  ค่า CD4 ลดลงถึง 160 เซลล์ / mm3 แม้จะมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปริมาณไวรัส (≤1000 copies / ml) ในวันที่ 30 ของการใช้  Nigella sativa"

โดยในวันที่ 187 ของการรักษาด้วยเมล็ดสีดำ Black Seed การทดสอบแสดงให้เห็นว่า เลือดก็เคลียร์ทั้งหมดในเรื่องของสัญญาณของการติดเชื้อ ซึ่งอยู่ในสถานะที่เรียกว่า 'Zero-Nagative

หลังจากติดตามการทดสอบแสดงให้เห็นว่า แม้หลังจากการรักษา เป็นเวลา 24 เดือน โดยไม่ต้องรักษาด้วยการใช้สมุนไพร น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ Black Seed Oil ของผู้ป่วยเอดส์ การทดสอบพบว่า ผู้ป่วยยังคงมีอาการปกติ โดยที่ไม่มีข้อบ่งชี้ของการติดเชื้อใด ๆ หรือมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น  ดังนั้น พวกเขาทีมงานวิจัยในครั้งนี้  

จึงสรุปว่า : "รายงานการศึกษาทดลองในกรณีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่า การใช้รักษา Nigella sativa ในการรักษานั้น สามารถใช้เป็นตัวแทนในการรักษาที่เป็นไปได้และมีประสิทธิภาพ ในการควบคุมการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้"
-----------------
เอกสารอ้างอิง :
[i] Eman Mahmoud Fathy Barakat, Lamia Mohamed El Wakeel, Radwa Samir Hagag. Effects of Nigella sativa on outcome of hepatitis C in Egypt.  World J Gastroenterol. 2013 Apr 28;19(16):2529-36. doi: 10.3748/wjg.v19.i16.2529.
[ii] Abdulfatah Adekunle Onifade, Andrew Paul Jewell, Waheed Adeola Adedeji. Nigella Sativa Concoction Induced Sustained Seroreversion in HIV Patient. Afr J Tradit Complement Altern Med. 2013 Aug 12;10(5):332-5.

Source : Thank you very much for this website

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ