หน้าเว็บ

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

HOT PROMOTION!!

โปรโมชั่นรับลมร้อน!! 
ตั้งแต่วันที่ 14 -31 มีนาคม 2559



ชุดคู่หู..คู่ใจ ซื้อ 2 กระปุก 1,500 บาท ค่ะ :)


(((ซื้อ 1 กระปุก ราคาเดิมจ้ะ 1,200 บาท)))

เดี๋ยวนี้ขาย 850 บาท

รุ่นใหม่!! ของแท้!! ที่แคปซูลต้องมีตัวหนังสือ KAMIL นะคะ

สินค้าจัดส่งฟรี!! ทกรายการ..ทาง EMS


สนใจสั่งซื้อติดต่อ : คุณจิ๋ม โทร. 081-4465461


วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

"ความดันโลหิตสูง" โรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยไม่รู้ตัว


วันนี้ KAMIL HABBATUSSAUDA ขอนำเรื่อง “โรคความดันโลหิตสูง” มานำเสนอทุกท่าน เนื่องจากมันคืออันตรายใกล้ตัวที่สุดที่เราทุกคนไม่ควรมองข้าม “มัจจุราชเงียบ” ที่มาเยี่ยมเยือนเราโดยไม่รู้ตัว และไม่บอกกล่าวอย่างไร้มารยาท  โดยในปี 2543 ประชากร 1 แสนคน พบผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 259.02 และพบเพิ่มเป็น 1,349.39 ในปี 2553  ซึ่งถือว่ามีอัตราสูงขึ้นกว่า 5 เท่า

จากผลการสำรวจสภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 (พ.ศ.2551-2552) พบว่า ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง ร้อยละ 60 ในผู้ชาย และร้อยละ 40 ในผู้หญิง ไม่เคยได้รับการตรวจวินิจฉัยมาก่อน  พูดง่ายๆ คือ ไม่รู้ตัวว่าเป็นความดันโลหิตสูง

นพ.วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “มีหลายประเด็นที่พี่น้องคนไทยไม่รู้ ไม่ใส่ใจ รู้ทั้งรู้ หรือยังเข้าใจผิดอยู่  เมื่อลงพื้นที่หลายจังหวัดก็จะพบประเด็นต่าง ๆ เช่น 
คิดว่าโรคนี้จะต้องมีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ใจสั่น หรือเหนื่อยง่าย เมื่อไม่มีอาการก็นึกว่าไม่เป็นโรคนี้ ความจริงส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 จะไม่พบโรคหรือภาวะผิดปกติ”

สิ่งที่เป็นต้นเหตุของความดันโลหิตสูง ซึ่งเรียกว่า “ความดันโลหิตสูงชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุ” (Essential Hypertension หรือ Primary Hypertension) มักจะมาจากพันธุกรรม คือ ถ้าพ่อแม่พี่น้องเป็น ตัวเองมีโอกาสเป็นสูงกว่าคนอื่น 3 เท่า  นอกจากนี้ ในคนสูงอายุ อ้วน กินเค็ม ดื่มเหล้า ก็เป็นปัจจัยสำคัญ พบในอายุเริ่มที่ 25 ปี ต่อมาเริ่มมีอาการป่วยที่อายุ 40 ปี ผู้ป่วยจะปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจความดัน เนื่องจากไม่มีอาการ จนในที่สุดกลายเป็นโรคหัวใจ โรคอัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองแตก ถึงจะมาโรงพยาบาล ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนน้อยต่ำกว่าร้อยละ 10 อาจตรวจพบโรคเป็นต้นเหตุ พบในคนอายุน้อยกว่า 30 ปี เริ่มมีโรคความดันสูง ที่เรียกว่า “Secondary Hypertension” เช่น หญิงตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ คอพอกเป็นพิษ โรคไตอักเสบ

**เราจะทราบว่าป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือไม่??  มีวิธีการเดียวเท่านั้น คือการตรวจวัดความดันโลหิต เป็นระยะ ๆ  บางรายนึกว่าคนผอมไม่เป็นความดันโลหิตสูง ความจริงแล้วโรคนี้พบได้ทั้งคนอ้วนและคนผอม ยิ่งพ่อแม่เป็นแนวโน้มลูกจะได้มรดกมา มากถึง 3 เท่า

นพ.วิชัยฯ ได้กล่าวว่า เมื่อคราวลงพื้นที่ อ.เมืองสิงห์บุรี มีชายไทยอายุ 50 ปี เป็นความดันโลหิตสูงถึง 200/100 มิลลิเมตรปรอท (เป็นโรคระดับ 3 สีแดง) รักษามากนานมาก ให้ยาทุกชนิดก็ไม่ลง พยาบาลจึงลงไป "สอบสวนโรค พบว่า ลูกชายอายุ 18 ปี ติดยาเสพติด ทำให้พ่อเครียดกินยาอย่างไรก็ไม่ลง จึงต้องรักษา "ลูก" ที่ติดยาก่อน ความดันโลหิตสูงของพ่อก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ไม่ต้องกินยาลดความดัน (( นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า “ความเครียด” เป็นสาเหตุหนึ่งของความดันสูง ซึ่งใช้ยาตัวไหนก็รักษาไม่หาย ))

ผู้ป่วยอีกรายหนึ่ง เป็นชายไทยอายุ 60 ปี เป็นความดันโลหิตสูงระดับสีแดง 180/100 กินยาต่อเนื่องมาเรื่อย วันหนึ่งไปตรวจวัดความดันที่โรงพยาบาลพบว่า ความดันอยู่ในระดับปกติ หลังเวลาผ่านไป 10 วัน ผู้ป่วยเกิดอาการเจ็บ จุก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หัวใจหยุดเต้น ต้องปั๊มหัวใจและแก้ไขได้ทันรอดตาย  เมื่อทำการสอบสวนโรคจึงพบว่า หลังตรวจวัดว่า “ปกติ” ผู้ป่วยเลยคิดว่า "ตัวเองหาย"  จึงไม่ได้กินยา ขาดยาไป 10 วัน กอปรกับช่วงเวลาดังกล่าวมีภาวะเครียด ความดันขึ้น ทำให้มีอาการจุกหน้าอก หัวใจขาดเลือดกะทันหัน และความดันที่วัดขณะนั้นสูงถึง 210/110 มิลลิเมตรปรอท

วิเคราะห์จากสถานการณ์ข้างต้น นพ.วิชัยฯ จึงต้องการจะบอกให้ทุกท่านได้ทราบข้อเท็จจริงว่า "โรคความดันโลหิตสูง เป็นแล้วเป็นเลย รักษาไม่หายขาด จะเป็นเรื้อรังตลอดชีวิต”

(ที่มา : เว็บไซด์ของ สสส. ซึ่งสรุปบทความของ นพ.วิชัย เทียนถาวร จาก นสพ.ประชาชาติธุรกิจ)

ท่อน้ำเก่า (เส้นโลหิต)ใช้งานมานาน มันก็ต้องกรอบแข็ง มีคราบสนิมจับเกรอะกรังไปหมด ทำให้ปั้มน้ำ (ห้วใจ) ต้องทำงานหนักขึ้น ร่างกายก็เลยมีเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ไม่เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของโรคเรื้อต่าง ๆ อีกหลายโรคตามมา เช่น หัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือด ไตขาดเลือด ตาบอด ปลายมือปลายเท้าขาดเลือด ทำให้เกิดอาการชา เป็นต้น แล้วเราจะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างไร เพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ที่มีจากความเสื่อมของระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย การป้องกันไว้ก่อน น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
โรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่ตามมาจากการป่วยด้วย "โรคความดันโลหิตสูง"

ดังนั้น ท่านผู้อ่านที่ติดตามบล็อกของ KAMIL HABBATUSSAUDA มาโดยตลอด น่าจะทราบเป็นอย่างดีว่า "น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์" สามารถบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ทั้งโรคที่มาจากความเสื่อม และโรคที่มาจากการติดเชื้อ อีกทั้งเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีระดับฮอร์โมนที่สมดุล  และมันคือสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ในแพทย์ทางเลือก ตามแนวทางป้องกัน และเป็นการบำบัดรักษาโดยวิถีทางธรรมชาติ ที่ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ  ซึ่งในทางกลับกันยาทางเภสัชกรรม สามารถรักษาโรคได้ หรือระงับอาการที่ปลายเหตุ แต่มันก็ให้ผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่เป็นผลเสียต่อร่างกายติดตามมา เมื่อมีการใช้ในระยะยาว

หมายเหตุ : ลิงค์งานวิจัยเกี่ยวกับ ฮับบาตุซเซาดะฮ์สามารถรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งมีผลต่อการลดความดันโลหิต นั่นเอง

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ : การรักษามะเร็งเต้านมในเพศชาย


ผู้ชายก็มีสิทธินะคะ สามารถป่วยเป็น “มะเร็งเต้านม” ได้เหมือนกัน !!?

ระบาดวิทยา หรือโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในเพศชาย มีดังนี้
  1. กลุ่มผู้ชายสูงอายุ ที่มีอายุประมาณ 60-70 ปีขึ้นไป  และพบว่า 20% มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมในครอบครัว (อัตราการเกิดพบว่า ในเพศหญิงมีมากกว่าเพศชาย 100 เท่า)
  2. กลุ่มที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน (ของเพศหญิง) สูงกว่าฮอร์โมนเพศชาย หรือกลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter's syndrome) เป็นภาวะความผิดปกติทาง DNA ซึ่งโดยปกติแล้วมนุษย์เพศหญิงจะมีโครโมโซมเพศเป็น XX และเพศชายมีโครโมโซมเพศเป็น XY  แต่ผู้ป่วยกลุ่มอาการนี้จะมีโครโมโซม X ตั้งแต่ 2 อันขึ้นไป และมีโครโมโซม Y อย่างน้อย 1 อัน บางครั้งเรียกผู้ป่วยกลุ่มนี้ว่า "เพศชาย XXY"  กลุ่มอาการนี้พบได้ 1 ใน 1,000 ของเพศชาย กลุ่มอาการนี้ตั้งชื่อตาม Dr. Harry Klinefelter ซึ่งได้ทำการศึกษาวิจัยร่วมกับ Fuller Albright ในปี ค.ศ. 1942 ใน Massachusetts General Hospital ในเมืองบอสตัน

  • รูปร่างสูงกว่าค่าเฉลี่ย
  • มีการเจริญเติบโตของเต้านม
  • ไหล่แคบ
  • สะโพกผาย
  • อัณฑะเล็กกว่าปกติ
  • หนวดเคราเจริญบกพร่อง
  • ขนอวัยวะเพศเป็นลักษณะของเพศหญิง
  • เป็นหมัน
  • สมาธิสั้น
  • แขนและขายาว
  • ปัญญาอ่อนเล็กน้อย

     3. กลุ่มที่มีภาวะตับแข็ง หรือเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง  เนื่องจากตับเสื่อมสภาพลงไม่สามารถทำลายฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ตามปกติ
     4. สาเหตุอื่นๆ ที่อาจตรวจได้พบ ได้แก่ มีประวัติฉายแสงบริเวณหน้าอก ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน


  • คลำเจอก้อนที่เต้านม หรือเต้านมบวม ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเจ็บ (KAMIL ขอให้ทัศนะเพิ่มเติมนิดหนึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับคนที่พบก้อนเนื้อ โดยทั่วไปก้อนเนื้อที่เป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็งนั้น มักจะเป็นก้อนแข็ง ๆ และติดอยู่กับที่ และคลำดูไม่เจ็บ.. ขอย้ำ คือ คลำดูไม่เจ็บ มีโอกาสเสี่ยงสูง อย่าได้ชะล่าใจ ให้รีบไปตรวจโดยเร็วนะคะ)
  • มีของเหลวออกจากหัวนม ที่พบบ่อยคือเป็นน้ำปนเลือด หัวนมบอดบุ๋มเข้าข้างใน เต้านมหรือหัวนมแดง หรือมีแผลเรื้อรังบริเวณหัวนม อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่ามะเร็งเต้านมในผู้ชายมักพบในชายสูงอายุที่อาจจะไม่ได้สนใจสังเกตความผิดปกติของเต้านมตนเอง ส่งผลให้การวินิจฉัยโรคล่าช้าและผลการรักษาผ่าตัดไม่ดีจากมะเร็งที่เป็นมากและสภาพร่างกายผู้สูงอายุที่มีหลายโรคคอยรุมเร้าอยู่
เพราะฉะนั้นคุณผู้ชายทุกวัยก็ต้องคอยสังเกตความผิดปกติของเต้านม ตรวจเต้านมตนเองด้วยเช่นกัน หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ระวังอย่าให้อ้วนน้ำหนักเกิน และลดละเลิกดื่มสุรา  แต่สำคัญคือ กลุ่มที่ชอบหาฮอร์โมนเพศหญิงมากินมาฉีดให้หน้าอกใหญ่เหมือนผู้หญิง  กลุ่มนี้จึงต้องยอมรับความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ชายปกติอย่างแน่นอน

**การป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าเป็นมาแก้ไขภายหลังนะคะ  “น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด ช่วยดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยทอง  ผู้ที่ไม่เจ็บป่วยก็สามารถรับประทานได้ จะช่วยเสริมภูมิต้านโรค และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

ที่สำคัญที่สุดคือ สารสกัด Thymoquinone ที่อยู่ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ฆ่าเซลล์มะเร็ง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก

KAMIL HABBATUSSAUDA เป็นน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (บริสุทธิ์) หรือ Black Seed Oil 100% สกัดด้วยวิธี cold pressed จึงรักษาคุณค่าของสารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ได้มากที่สุด ผลิตภัณฑ์ของเราเข้มข้น ไม่มีส่วนผสมของน้ำอื่นใด ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาของน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ลดลงไปจากประสิทธิที่แท้จริงของมัน จึงให้ผลลัพท์ในการบำบัดรักษาที่ชัดเจน อีกทั้งมีผลงานวิจัยยืนยันถึงการใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ รักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้มนมในเพศหญิง ที่มีอาการดื้อยาต่อการให้เคมีบำบัด ท่านสามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ องค์ประกอบของสารอาหาร สรรพคุณในการบำบัดรักษา และผลงานวิจัยต่าง ๆ 

หากสนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ “น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์” ของ KAMIL ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ คุณฮัฟเซาะฮ์ (จิ๋ม) โทร 081-4465461 นะคะ