โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
คืออะไร??
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid
arthritis) เป็นโรคเรื้อรัง ที่มีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายอวัยวะของตัวเอง
(autoimmune) โดยส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยในหลายอวัยวะ แต่อาการที่เป็นลักษณะเฉพาะของโรคและเป็นปัญหาทำให้ผู้ป่วยเกิดความพิการตามมา
ก็คือ การที่ข้อต่าง ๆ เกิดการอักเสบ โดยเฉพาะข้อมือและข้อนิ้วมือสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค : ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าพันธุกรรมก็เป็นสาเหตุหนึ่ง โดยพบว่า 10% ของผู้ป่วยโรคข้อรูมาตอยด์มีญาติสายตรงที่เป็นโรคนี้เช่นกัน และยังมีสาเหตุอื่น เช่น การติดเชื้อบางชนิดที่มีอยู่ทั่วไป ทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส หรือสาเหตุจากฮอร์โมนก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากโรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเมื่อตั้งครรภ์
อาการของโรค : พบว่า ผู้ป่วยในระยะเริ่มแรก 2 ใน 3 มักจะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร และตามมาด้วยอาการข้ออักเสบ ที่เป็นลักษณะของ “โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์” มีผู้ป่วยส่วนน้อยที่จะเริ่มต้นด้วยอาการของข้ออักเสบเลย นอกจากนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีอาการไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต และม้ามโตร่วมด้วย
อาการของข้ออักเสบรูมาตอยด์ คือ มีอาการปวดบวมตามข้อ โดยพบที่ข้อขนาดเล็ก ๆ เช่น ข้อนิ้วมือ ฝ่ามือ ข้อนิ้วเท้า และฝ่าเท้า มากที่สุด ส่วนที่พบในข้ออื่นๆ ได้แก่ ข้อมือ ข้อเข่า ข้อไหล่ ข้อเท้า ข้อศอก ข้อสะโพก ข้อกระดูกสันหลังส่วนคอ แต่จะไม่พบที่ข้อปลายนิ้วมือ และที่ข้อกระดูกสันหลังส่วนเอว
ลักษณะอาการเฉพาะของโรค คือ จะมีอาการที่ตำแหน่งข้อเหมือนกัน ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา อาการปวดจะมากขึ้นเมื่อใช้งานข้อนั้น ๆ และเมื่อพักการใช้ข้อนาน ๆ เช่น หลังตื่นนอนก็จะมีอาการข้อยึดแข็ง ขยับไม่ได้เป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง
สาเหตุที่ข้อบวมและปวด เกิดจากมีน้ำสะสมอยู่ในข้อ เยื่อบุข้อมีการหนาตัว มีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เข้ามาอยู่มากมาย ทำให้มีการหลั่งสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบจากเซลล์ และสารเคมีบางตัวก็ทำให้เกิดความเจ็บปวด นอกจากนี้ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยู่รอบข้อก็มีการอักเสบร่วมด้วย จนกระทั่งเมื่อการอักเสบดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลานานหลายสิบปี ส่งผลให้กระดูกอ่อนที่เป็นส่วนประกอบของข้อถูกทำลาย กระดูกที่อยู่รอบข้อบางลง และในที่สุดจะเกิดพังผืดขึ้นมาแทนที่ ดึงรั้งทำให้ข้อเสียรูปร่าง ใช้งานไม่ได้ เนื้อเยื่อรอบ ๆ ข้อที่ทำหน้าที่พยุงข้อไว้ก็จะเสียไป เส้นเอ็นที่เกาะอยู่ที่ข้อจะถูกทำลาย และส่งผลทำให้กล้ามเนื้อทำงานไม่ได้ตามปกติ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยจะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม เช่น อาบน้ำ แต่งตัว ทำอาหาร งานบ้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงสำหรับโรคนี้
ยาที่ใช้รักษาโรคข้อรูมาตอยด์ : จะต้องใช้ยาหลายตัวร่วมกัน
ไม่มียาตัวไหนที่จะหยุดยั้งการดำเนินของโรค และทำให้หายได้ ยาที่ใช้รักษาจะเป็นได้เพียง
เพื่อลดและป้องกันการปวดบวมของข้อ ลดการดำเนินของโรคให้ช้าลง และไม่ให้รุนแรงจนข้อเสียหายพิการ
งานวิจัยทางคลินิก
: ประสิทธิผลของน้ำมันเทียนดำ
ในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
งานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการศึกษาในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
เพศหญิง จำนวน 40 คน โดยช่วงแรกให้ผู้ป่วยได้รับแคปซูลยาหลอก 2 แคปซูลต่อวัน นาน 1 เดือน ต่อจากนั้นในช่วงหลัง จึงให้รับประทานแคปซูลน้ำมันเทียนดำ
(Black cumin Oil) ขนาด 500 มก.
วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยา methotrexate, hydroxychloroquine, folic acid และ diclophenac sodium
วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยา methotrexate, hydroxychloroquine, folic acid และ diclophenac sodium
การประเมินผลการรักษา : ใช้การวัดคะแนนความรุนแรงของโรค (disease activity score, DAS-28) การตอบสนองต่อการรักษาร้อยละ
20 ตามเกณฑ์ของ American college of rheumatology
(ACR20) และ European league against rheumatism (EULAR)
ผลการประเมิน : พบว่า ช่วงที่ผู้ป่วยได้รับน้ำมันเทียนดำจะมีความรุนแรงของโรค จํานวนข้อที่มีการอักเสบ และระยะเวลาของข้อฝืดตึงในตอนเช้า (morning stiffness) ลดลง โดยมี
ผู้ป่วย 17 ราย (42.5%)
ตอบสนองต่อการรักษาตามเกณฑ์ ACR20 และผู้ป่วย 12 ราย (30%)
ตอบสนองต่อการรักษาตามเกณฑ์ของ EULAR
สรุปผลการประเมิน : แสดงให้เห็นว่า การให้น้ำมันเทียนดำ
(หรือ
น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ /Black Seed Oil) ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน จะช่วยเสริมประสิทธิผลในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในผู้ป่วยได้
ขอบคุณข้อมูล :
1. เรื่องโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ : แพทย์หญิง สลิล ศิริอุดมภาส haamor.com
2. รายงานผลการวิจัยทางคลินิก จากสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ