โดย : Inayat Ullah Bhatti, Fazal Ur
Rehman, Muhammad Aslam Khan, and Sarfaraz Khan Marwat
จากสถาบัน : Gomal University D.I.Khan (NWFP), Pakistan (ประเทศปากีสถาน)
บทนำ :


ดังนั้น ในการวิจัยครั้งนี้ จึงได้ทำการศึกษา ผลกระทบของ “ฮับบาตุซเซาดะฮฺ” ที่มีต่อระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ได้แก่ HDL, LDL และไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) โดยทำการศึกษาจากคน (human models) เพื่อหาความเป็นไปได้ในการลดระดับคอเลสเตอรอลว่า สมจริงดั่งวจนะที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวไว้ หรือไม่ ?
วิธีการวิจัย :
จัดทำโดยการประเมินปฏิกิริยาตอบสนองของฮับบาตุซเซาดะฮ์ต่อผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเส้นเลือดสูง โดยคัดเลือกผู้ป่วยชายที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 10 คน มีอายุระหว่าง 50-55 ปี แล้วจดบันทึกประวัติทางกายภาพและพยาธิสภาพไว้ โดยให้ผู้ป่วยทุกคนใช้วิถีชีวิตตามปกติ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ทางกายภาพเหมือนเดิม พวกเขาทุกคนถูกกำหนดให้รับประทานฮับบาตุซเซาดะฮ์วันละ 1 กรัม ก่อนอาหารเช้า เป็นเวลา 2 เดือน และตรวจวัดความดันโลหิตไว้ทั้งก่อนและหลังให้การรักษา
ผลลัพธ์ (Result) :
จากการตรวจวัดระดับคอเลสเตอรอล(total cholesterol), HDL, LDL และไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ด้วยการตรวจวัดค่าหลังจากผู้ป่วยอดอาหารเป็นเวลา
24 ชั่วโมง ผลปรากฏว่า ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดหลังให้การรักษาลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
(ก่อน 261.8 mg/dl, หลัง 21 6.3mg/dl) เช่นเดียวกันระดับ LDL ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ก่อน 238.8 mg/dl, หลัง 188.0 mg/dl) ในทางกลับกันระดับ HDL (คอเลสเตอรอล ชนิดดี) มีค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ก่อน 43.2 หลัง
54.4 mg/dl) ส่วนค่าไตรกลีเซอไรด์ในเลือดมีค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (ก่อน 275.9 หลัง 235.5mg/dl) ผลสรุปในภาพรวมทั้งหมดแสดงให้เห็นในภาพ Fig 1
ความคิดเห็น :
เนื่องจากภาวะไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจ,
การลดความเข้มข้นของคอเลสเตอรอลในเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LDL จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้นฮับบาตุซเชาดะฮ์
ซึ่งเป็นยาสามัญที่รู้จักกันไปทั่วโลกในทางการแพทย์ของอายุรเวท
และการแพทย์ของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) Tibb-e-Nabawi (Prophet’s Medicine) จึงถูกนำมาศึกษาในครั้งนี้
และพบว่า มันให้ผลกระทบ ที่หลากหลายในกลุ่มไขมันรวม ( total lipid profile ) โดยมีนัยสำคัญในการลดระดับคอเลสเตอรอล
และระดับ LDL-คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นไขมันชนิดเลว ดังนั้น
ผลลัพธ์เหล่านี้จึงบ่งชี้ว่า ฮับบาตุซเซาดะฮฺ Nigella sativa (Kalonji) มีบทบาทในการป้องกันโรคหลอดเลือด และภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งได้มีการศึกษาวิจัยมาแล้ว ทั้งในแคนนาดา
อียิปต์ และประเทศอื่น ถึงประสิทธิภาพของ Thymoquinone โดยการใช้หนูทดลอง
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ไม่มีความแตกต่างกัน
การศึกษาในครั้งนี้
จึงเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของ Nigella
sativa (Kalonji) ในการลดระดับคอเลสเตอรอล และระดับ LDL-คอเลสเตอรอล อย่างไรก็ตาม
ในอนาคตควรจะมีการศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มประชากรที่มีขนาดใหญ่ ทั้งในด้านปริมาณและคุณสมบัติในเรื่องดังกล่าวนี้อีก
บทสรุป :
ในฮับบาตุซเซาดะฮฺมีสารที่ต่อต้านการแข็งตัวของหลอดเลือด (antiatherogenic) และให้ผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญในการลดระดับ
LDL และเพิ่มระดับ HDL จึงสามารถป้องกันมิให้เส้นเลือดอุดตันได้ ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงเป็นไปตามที่ท่านศาสดามุฮัมมัด
(ศ็อลฯ) ได้กล่าวไว้อย่างแท้จริง
“ฮับบาตุซเซาดะฮฺ
เป็นยาบำบัดทุกโรค เว้นแต่ความตาย”
http://idosi.org/wasj/wasj6(8)/7.pdf
แปลโดย : KAMIL HABBATUSSAUDA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ