วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ผลการใช้ KAMIL HABBATUSSAUDA รักษาโรคเอ็มเอส

วันนี้มีเรื่องที่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง นำมาแชร์ให้แก่เพื่อน ๆ และลูกค้า ผู้ใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (black seed oil) ของ KAMIL ค่ะ กล่าวคือ มีลูกค้ารายหนึ่ง สามีเธอป่วยเป็นโรคเอ็มเอส หรือโรคมัลติเพิล สเคอโรซิส (Multiple sclerosis : MS) เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งระบบประสาทส่วนกลางนี้จะประกอบด้วย สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทตา เมื่อเกิดการอักเสบ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลง


สาเหตุของโรค : สาเหตุที่ทำให้เกิด โรคเอ็มเอส นั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่า โรคเอ็มเอส เกิดจากปัจจัยหลัก คือ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการติดเชื้อ หรือได้รับเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียบางชนิด ส่งผลให้ภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถแยกแยะได้ถูกต้อง ระหว่างเซลล์ร่างกายกับสิ่งแปลกปลอม ทำให้แทนที่ภูมิต้านทานจะทำลายเชื้อโรคเพียงอย่างเดียว กลับทำร้ายเซลล์ตัวเอง (auto immune) โดยไปทำลายปลอกหุ้มเส้นประสาทด้วย จนเกิดอาการอักเสบขึ้นมา

อาการของโรค : ผู้ป่วย โรคเอ็มเอส จะมีอาการหลากหลาย ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดโรค เช่น หากเกิดที่เส้นประสาทตา จะส่งผลต่อการมองเห็น อาจสูญเสียการมองเห็นของตาข้างใดข้างหนึ่ง เนื่องจากเส้นประสาทตาอักเสบ จึงทำให้ปวดตา ตามัว ภายในเวลา 1-2 นาที หากเกิดที่ไขสันหลัง หรือสมอง อาจมองเห็นภาพซ้อน มีอาการชาครึ่งตัว แขนขาไม่มีแรง เหน็บชา ปวด หรือปัสสาวะไม่ออก ขึ้นอยู่กับว่าเกิดที่สมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมส่วนไหนของร่างกาย ถ้าเป็นที่สมองส่วนกลางที่ควบคุมการทรงตัว คนไข้อาจมีอาการหัวหมุน หรือวิงเวียนศีรษะได้แต่มักมีอาการอื่นร่วมด้วย ทั้งนี้หากเป็นมากอาจสูญเสียการเคลื่อนไหวของร่างกาย จนอาจเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิตได้

ในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคนี้ จะมีความผิดปกติทางสมองประมาณ 30-70% โดยเฉพาะด้านการกะระยะทาง ความจำ ความเร็วในการประมวลผล และการบริหารงาน ทั้งการแก้ปัญหา การวางแผน การจัดลำดับงาน เป็นต้น

การรักษาโรคเอ็มเอส : ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา โรคเอ็มเอส ให้หายขาด เนื่องจากมีแผลเป็นในระบบประสาทเกิดขึ้น ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการ โดยชะลอให้อาการต่างๆ ทุเลาลง ด้วยการให้ยากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการอักเสบ หรือยาลดความรุนแรงของโรคในกลุ่ม Interferon bata หรือ ยากดภูมิคุ้มกันบางตัว

นอกจากนี้ ยังมีการแพทย์ทางเลือกที่ช่วยทุเลาอาการ เช่น การฝังเข็ม (acupuncture), ไคโรแพรกติก (chiropractic), การใช้ยาสมุนไพร (herbal medicine), แนวการรักษาแบบโฮมิโอพาธี (homeopathy) และแนวการรักษาแบบออสทีโอพาธี (osteopathy) ฯลฯ

การใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (black seed oil) รักษาโรคเอ็มเอส จึงถือได้ว่า เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือก และเป็นการแพทย์ตามแนวทางอิสลาม ซึ่งมีรายงานวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) กล่าวว่า “จำเป็นสำหรับท่านทั้งหลาย คือ ฮับบะตุซเซาดะฮ์ เพราะแท้จริงมันเป็นยาบำบัดทุกโรค เว้นแต่ความตาย”  บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ และมุสลิม

ถึงแม้ว่า ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยยืนยันว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือที่คนไทยเรียกว่า “น้ำมันเทียนดำ” สามารถรักษาโรคเอ็มเอส ได้ แต่ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (black seed oil) เอง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค อีกทั้งมีสรรพคุณครอบคลุมในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขว้างทั่วถึงในทุก ๆ โรค  ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (blask seed oil) สามารถรักษาโรคเอ็มเอส ได้นั่นเอง 

นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากประสบการณ์ของผู้ใช้ Black Seed Oil ในการรักษาโรคเอ็มเอส ในต่างประเทศ ก็มีให้เห็นมาแล้ว 2 ราย เป็นผู้ป่วยชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย ดังบทความที่เคยนำเสนอมาแล้ว
 
และล่าสุดนี้ เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง มีผู้ใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (black seed oil) ของ KAMIL เพียงเวลา 1 ปี ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ จากคำบอกเล่าของภรรยาของผู้ป่วยที่เป็นลูกค้าของ KAMIL เธอได้นำเรื่องราวนี้มาแชร์ในไลน์กลุ่ม KAMIL HABBATUSSAUDA ว่า..


“สวัสดีค่ะทุกท่าน มีข้อมูลมาแชร์ค่ะ สามีดิฉันเป็นโรค MS มา 15 ปี ที่ผ่านมารักษาตามอาการ พอมีอาการกำเริบทีก็จะต้องไปให้ยา จนกระทั่งได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ black seed (ฮับบะตุซเซาดะฮ์) ว่าช่วยอะไรได้บ้าง  จึงสั่งซื้อ ให้สามีรับประทาน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2015 และทานมาเรื่อย ๆ สิ่งที่พบได้จาการทานน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ของ KAMIL ก็คือ (1) การนอนหลับดีมาก มากจนน่าตกใจ จากที่เคยหลับยากมาก (2) ล่าสุดคุณหมอได้ตรวจโดยให้ทำ MRI สมอง และหลัง ผลปรากฏว่า ไม่พบจุดขาวในสมอง โดยมีขนาดเล็กลงและไม่มีเพิ่มขึ้น และบริเวณ spine ไม่พบ จุดขาว เช่นกัน ซึ่งก็ตรงกับเรื่องราวที่มีการแชร์ กันว่า black seed oil ช่วยรักษาโรค MS ได้  ซึ่งแม้แต่หมอเองก็ยังแปลกใจ

นอกจากนี้ สามีของดิฉันยังมีอาการอื่น ๆ ที่ดีขึ้น จึงขอทานต่อไปอีกสักพักหนึ่ง แล้วจะกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ  ต้องขอขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงเมตตา ให้ครอบครัวเราได้รู้จักสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา” (1 พฤษภาคม 2559)

MASHA’ALLAH, ALHAMDULILLAH!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ