แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เบาหวาน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เบาหวาน แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

10 อันดับแรก จากคุณประโยชน์ของเมล็ดเทียนดำ (ฮับบาตุซเซาดะฮ์)

เมล็ดเทียนดำ หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า Nigella sativa นั้น เป็นเครื่องเทศที่ใช้ในการปรุงอาหาร ที่ส่วนใหญ่พบได้บ่อยในอาหารอินเดียและตะวันออกกลาง  มันถูกเรียกหลายชื่อ เช่น Onion Seeds, Fennel Flower seeds, Black caraway, Roman corieander หรือ Kalonji

มันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีกลิ่นฉุน รสชาติขมและเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมคล้าย ๆ ออริกาโน  เมล็ดของมันถูกนำมาคั่วแห้งเพื่อใช้เพิ่มรสชาติให้กับอาหารประเภทแกง และอาหารประเภทผัดผัก

ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ผู้คนได้ใช้เมล็ดเทียนดำและน้ำมันสกัดจากเมล็ดเทียนดำ หรือน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ  ซึ่งมันแทบไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด และยังให้คุณสมบัติในการบำบัดรักษาที่กว้างขวาง

คุณประโยชน์สูงสุดที่มีผลดีต่อสุขภาพนั้น เป็นผลมาจากสารพฤกษเคมี หลัก 3 ตัว คือ Thymoquinone (TQ), Thymohydroquinone (THQ) และ Thymol – ที่อยู่ในเมล็ดเทียนดำ  และนอกจากนี้ยังมีสารอาหารต่าง ๆ เช่น แคลเซียม, เส้นใยอาหาร (fiber), โพแทสเซียม, โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ (healthy fat)

เมล็ดเทียนดำยังสามารถใช้เป็น ยาแก้ปวด, ยาฆ่าเชื้อรา (antifungal),  ยาแก้ปวดท้อง (antispasmodic), สารต้านอนุมูลอิสระ  (antioxidant),  ต้านเชื้อแบคทีเรีย  (antibacterial), ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory),   ขับลมในกระเพาะอาหาร, รักษาแผลในกระเพาะอาหาร, ลดความดันโลหิต และมีคุณสมบัติเป็น Anticholinergic*


[*นพ.มานิตย์วัชร์ชัยนันท์ : Anticholinergics  เป็นกลุ่มยา ที่ออกฤทธิ์บล็อกการทำงานของสารสื่อประสาท (neurotransmitter acetylcholine) ในสมอง ซึ่งถูกนำไปใช้รักษาโรคต่าง ๆ หลายอย่าง เป็นต้นว่า โรคหืด (asthma), โรคการควบคุมปัสสาวะล้มเหลว  (incontinence), กระเพาะลำไส้ปั้น (GI Crmaps), กล้ามเนื้อป้้น  หรือตระคิว  (muscular spasms)  นอกจากนี้ Anticholinergics ยังถูกนำไปใช้รักษาภาวะซึมเศร้า (depression)  และรักษาความผิดปกติในเรื่องการนอนหลับ (sleep disorders)  ยังทำหน้าที่รักษาความสมดุลในการผลิตสารสื่อประสาท Dopamine และ acetylcholine ภายในร่างกาย ]


10 อันดับแรกจากคุณประโยชน์ของเมล็ดเทียนดำที่มีผลดีต่อสุขภาพ

1. ช่วยลดความดันโลหิตสูง
เมล็ดเทียนดำมีฤทธิ์ทำให้ความดันโลหิตลดลง จึงช่วยรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง  ผลการศึกษาวิจัยเมื่อปี 2008 ในวารสาร Fundamental & Clinical Pharmacology Journal  การใช้สารสกัดจากเมล็ดเทียนดำเป็นประจำ ภายในเวลา 2 เดือน มีผลช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงที่ไม่รุนแรง  นอกจากนี้ มันยังช่วยลดระดับไขมัน LDL และส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่หัวใจ

เมื่อมีอาการความดันโลหิตสูง ให้รับประทานเมล็ดเทียนดำ 100-200 มก. วันละสองครั้ง

2. การควบคุมเบาหวาน ชนิดที่ 2
นักวิจัยได้ศึกษาประสิทธิผลของเมล็ดเทียนดำ ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2  อ้างอิงการศึกษาเมื่อปี 2010 ตีพิมพ์ในวารสาร Indian Journal of Physiology and Pharmacology  การรับประทานเมล็ดเทียนดำ เป็นประจำวันละ 2 กรัม อาจจะเป็นวิธีที่เป็นประโยชน์ในการจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2

โดยทั่วไปการบริโภคของเมล็ดเทียนดำ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และความต้านทานต่ออินซูลิน เช่นเดียวกับการเพิ่มฟังก์ชั่นเบต้าเซลล์ในตับอ่อน  มันจึงมีประโยชน์ในการป้องกันโรคเบาหวาน

3. ส่งเสริมสุขภาพตับ
น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือน้ำมันเทียนดำ สามารถส่งเสริมสุขภาพของตับ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2013 European Review for Medical and Pharmacological Sciences  น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์แสดงให้เห็นว่า มันสามารถปรับปรุงโครงสร้างของตับและไต

การศึกษาพบว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ช่วยเพิ่มกลไกการป้องกันภาวะไตเสื่อมเฉียบพลันอันมีสาเหตุมาจากตับแข็งหรือตับวาย ช่วยลดอาการโรคแทรกซ้อนและทำให้พัฒนาการของโรคมีความล่าช้าออกไป  ดังนั้น เพื่อปรับปรุงการทำงานของตับและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับตับหรือจากการป่วยเป็นโรคตับ จึงควรรับประทานเมล็ดเทียนดำเป็นอาหารประจำวัน

4. กระตุ้นความจำ (Boosts Memmory)
เมล็ดเทียนดำสามารถสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่สมองของคุณ  เนื่องจาก มันมีสารต้านอนุมูลอิสระ, ต้านการอักเสบ และปกป้องเซลล์ประสาท  เมล็ดเทียนดำสามารถปรับปรุงความจำของคุณ

การศึกษาทางคลินิก เมื่อปี 2013 ตีพิมพ์ในวารสารเภสัชศาสตร์วิทยา The Journal of Ethnopharmacology  พบว่า คนที่รับประทานเมล็ดเทียนดำบดชนิดผง ขนาด 500 มิลลิกรัม/แคปซูล มีผลช่วยพัฒนาความรู้ความเข้าใจ, หน่วยความจำ และความสมาธิ ให้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานยาหลอก

วิธีรับประทาน : ทานเมล็ดเทียนดำผง  ครั้งละ ½ ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง หรือในปริมาณที่แพทย์แนะนำ

5. รักษาโรคหอบหืด
น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์มีฤทธิ์ต้านทานอาการหอบหืด (anti-asthmatic) ช่วยระบบทางเดินหายใจ ในโรคหืด  จากการศึกษาเมื่อปี 2010 ตีพิมพ์ในวารสารทางพฤกษเวชศาสตร์ (phytomedicine) พบว่า คุณสมบัติในการป้องกันโรคหอบหืดของเมล็ดเทียนดำ จะช่วยลดความรุนแรงของอาการหอบหืด และช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวจากอาการหอบได้เร็วขึ้น  สารสกัด Thymoquinone ที่อยู่ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ จะช่วยลดอาการอักเสบของทางเดินหายใจ และยับยั้งการหลั่งเยื่อเมือกจากอาการแพ้หรือเสมหะ  

นอกจากนี้ น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ยังมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเจ็บคอ, โรคไซนัสอักเสบเฉียบพลัน และต่อมทอนซิลอักเสบ อีกด้วย

วิธีการใช้ : หยดน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ เพียงไม่กี่หยดลงหม้อน้ำร้อน แล้วคลุมศีรษะด้วยผ้าขนหนูบนหม้อน้ำร้อน เพื่อสูดดมไอระเหยของมัน เป็นเวลา 5 นาที ทำซ้ำตามความจำเป็น หรืออาจจะหยดน้ำมันไม่กี่หยดบนผ้าเช็ดหน้าของคุณ แล้วสูดดมกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยของมันในเวลาที่ต้องการ

6. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
เมล็ดเทียนดำมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด รวมทั้งมะเร็งเต้านม, มะเร็งสมอง, มะเร็งช่องปาก, มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่

การศึกษาเมื่อปี 2012 ตีพิมพ์ในวารสารทางชีวเคมี และเภสัชวิทยา พบว่า Thymoquinone ในเมล็ดเทียนดำมีศักยภาพในการรักษาความผิดปกติจากการอักเสบ และโรคมะเร็ง  องค์ประกอบของมันทำหน้าที่เป็นตัวดักจับอนุมูลอิสระ

7. รักษาโรคอุจจาระร่วง
เมล็ดเทียนดำใช้ได้ผลดีในการรักษาปัญหากระเพาะอาหาร เช่น ท้องเสีย มีก๊าซ จุกเสียด และท้องผูก จากการศึกษาเมื่อปี 2012 ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One journal สารสกัดจากเมล็ดเทียนดำช่วยบรรเทาอาการแพ้จากโรคอุจจาระร่วงในหนูทดลอง

8. รักษาโรคแพ้ผื่นคันผิวหนังอักเสบ (Eczema)
9. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
10. ลดการหลุดร่วงของเส้นผม



*************
Credit : Health Expert @Youtube [Thank you very much]

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ทำไมฮับบาตุซเซาดะฮ์จึงเป็นยาบำบัดได้ทุกโรค


ในบทความหลายเรื่อง ๆ ที่ผ่านมา เราได้เคยกล่าวถึงเหตุผลอันเป็นที่ประจักษ์ถึงวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ที่กล่าวว่า "ฮับบาตุซเซาดะฮ์เป็นยาบำบัดทุกโรค เว้นแต่ความตาย" โดยหยิบยกผลงานวิจัยต่าง ๆ มามากมาย ที่อธิบายถึงประสิทธิภาพของฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed หรือที่ตำรายาไทย เรียกว่า "เทียนดำ") ในการเป็นอาหารหรือยาที่ช่วยชีวิตผู้คนทั้งหลายให้พ้นจากความเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ดังเช่น :-

  • เบาหวาน ชนิดที่ 2 : การบริโภคน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ วันละ 2 กรัม มีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือด ความต้านทานต่ออินซูลิน และ glycosylated hemoglobin (HbA1c) ลดลง[1]
  • ต้านการติดเชื้อเอชไพโลไร (Helicobacter pylori หรือย่อว่า H.pylori) เป็นเชื้อแบคทีเรีย ชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร  ส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการ แต่ในบางราย เชื้ออาจทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น รวมถึงมะเร็งในกระเพาะอาหาร
  • โรคลมชัก (Epilepsy) : น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์เป็นที่รู้จักันในการแพทย์โบราณว่า มีคุณสมบัติเป็น "ยากันชัก" จากผลงานวิจัยเมื่อปี 2007 ในเด็กที่เป็นโรคลมชัก สารสกัดในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์สามารถลดอาการของโรคลมชักอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ[2]
  • ความดันโลหิตสูง : การใช้สารสกัดจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ ในปริมาณครั้งละ 100 และ 200 กรัม วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 2 เดือน พบว่า ความดันโลหิตของผู้ป่วยที่มีความดันสูง ลดลง [3]
  • โรคหืดหอบ : การวิจัยทางคลินิกพบว่า สารสกัดของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์ผสมในน้ำร้อน มีผลในการรักษาโรคหืดหอบ และอาการหอบหืดในระบบทางเดินหายใจ
  • โรคทอนซิลอักเสบ แบบเฉียบพลัน : สาเหตุของทอนซิลอักเสบ หรืออาการเจ็บคอ ส่วนใหญ่มาจากเชื้อไวรัส  พบว่า การใช้ยาแคปซูลจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ ผสมกับลูกใต้ใบ ช่วยระงับอาการเจ็บคอ โดยมีนัยสำคัญทางสถิติจากการทดลองทางคลินิก
  • ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากอาวุธทางเคมี เช่น อาการของระบบทางเดินหายใจ และลดการใช้ยาแผนปัจจุบัน
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ : จากการศึกษาพบว่า การใช้สารสกัดจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ ระงับการเจริญเติบโตของมะเร็งลำไส้นั้น มีผลเทียบได้กับการใช้ยาเคมีบำบัด (chemo agent 5-fluorouracil)  แต่ทว่าการใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์มีความปลอดภัยสูงกว่า[4] โดยจากการวิจัยในหนูทดลองพบว่า มีค่านัยสำคัญทางสถิติ
  • การติดเชื้อ MRSA : ฮับบาตุซเซาดะฮ์มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ methicillin Staphylococcus aureus ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล  โดยเฉพาะผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยแผลกดทับและผู้ป่วยที่ต้องใช้สายสวนปัสสาวะ หรือสายให้น้ำเกลือและยาทางหลอดเลือด
  • การติดยาเสพติด/การถอนยา : การศึกษาในผู้ป่วยติดยา จำนวน 35 ราย พบว่า ฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือเทียนดำ เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการให้ผลในระยะยาว แก่ผู้ป่วยที่ต้องพึงยา (opioid) ในการรักษาอาการติดยา 

การวิจัยทางชีวภาพเกี่ยวกับ สารออกฤทธิ์ของฮับบาตุซเซาดะฮ์ในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ  ก็ได้มีมาอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ ประเทศ นับเป็นหลายร้อยเรื่อง  และนี่คือส่วนหนึ่งของผลงานวิจัยที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ซึ่งอาจจะให้คำตอบแก่คุณได้ว่า “ทำไมฮับบาตุซเซาดะฮ์ จึงเป็นยาบำบัดทุกโรค”  

1.      ป้องกันความเสียหายจากรังสี : Thymoquinone ซึ่งเป็นสารสกัดในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อสมอง จากภาวะความเครียดที่เกิดจากการฉายรังสี

2.      ป้องกันภาวะหัวใจวาย (Heart Attack)

3.      ป้องกันการพึ่งพามอร์ฟีน/ความเป็นพิษ

4.      ป้องกันความเสียหายของไตที่เกิดจากโรคเบาหวาน : thymoquinone ซึ่งเป็นสารสกัดในน้ำมันฮับบาตุซเซาด์ ป้องกันผลกระทบที่ทำให้เกิดโรคไตในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

5.      ป้องกันไม่ให้เกิดผังผืดหลังการผ่าตัด :  น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ช่วยลดการยึดติดกันของเยื่อผังผืด ที่เกิดจากการผ่าตัดทางช่องท้อง
6.      ป้องกันการเป็นพิษต่อระบบประสาทในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เช่น การตายของเซลล์ในระบบประสาท
7.      ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านม : Thymoquinone ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และก่อให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งเต้านม
8.      ยับยั้งโรคสะเก็ดเงิน Anti-Psoriasis : ฮับบาตุซเซาดะฮ์มีฤทธิ์ยับยั้งโรคสะเก็ดเงิน ตามที่มีการใช้ในตำรายาแผนโบราณ
9.      ปกป้องพยาธิสภาพของเซลล์สมองในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน และโรคสมองเสื่อม (dementia with Lewy bodies)

10.  ฆ่าเซลล์มะเร็งสมอง (Gliobastoma Brain Cancer )

11.  ฆ่าเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว

12.  ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งตับ

13.  ป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน

14.  ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปากมดลูก

15.  ปกป้องอันตรายที่ทำให้สมองไค้รับความเสียหาย

16.  ฆ่าเซลล์มะเร็งในช่องปาก


และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่สำคัญในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ก็คือ Thymoquinone ที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ที่นับเป็นตัวเอกของงานนี้ : เพิ่มภูมิต้านทานโรค ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก ต่อต้านการอักเสบ ต่อต้านการติดเชื้อทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส (ที่ตัวยาอื่น ๆ ไม่สามารถทำลายได้) หรือแม้แต่กระทั่งปรสิต หรือพยาธิ ที่ตัวยาอื่นไม่สามารถฆ่าให้ตาย และไม่มีอันตรายแม้แต่จะใช้กับเด็กเล็ก.


------------------------

เอกสารอ้างอิง :

[1] Abdullah O Bamosa, Huda Kaatabi, Fatma M Lebdaa, Abdul-Muhssen Al Elq, Ali Al-Sultanb. Effect of Nigella sativa seeds on the glycemic control of patients with type 2 diabetes mellitusIndian J Physiol Pharmacol. 2010 Oct-Dec;54(4):344-54. PMID: 21675032

[2] Javad Akhondian, Ali Parsa, Hassan Rakhshande. The effect of Nigella sativa L. (black cumin seed) on intractable pediatric seizuresMed Sci Monit. 2007 Dec;13(12):CR555-9. PMID: 18049435

[3] Farshad Roghani Dehkordi, Amir Farhad Kamkhah. Antihypertensive effect of Nigella sativa seed extract in patients with mild hypertensionBraz J Med Biol Res. 2006 Apr;39(4):421-9. Epub 2006 Apr 3. PMID: 18705755

[4] Elsayed I Salim, Shoji Fukushima. Chemopreventive potential of volatile oil from black cumin (Nigella sativa L.) seeds against rat colon carcinogenesisNutr Cancer. 2003;45(2):195-202. PMID: 12881014

[ [ [*Thank you for the source : http://www.greenmedinfo.com/ ] ] ]

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

25 วิธีในการใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Kalonji Oil) ตามแนวทางการแพทย์อายุรเวท


ในบทความก่อนหน้าที่ KAMIL HABBATUSSAUDA ได้นำเสนอประโยชน์ของน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ Black Seed Oil ในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ ให้ท่านได้ทราบแล้ว รวมทั้งได้นำเสนอเกี่ยวกับผลงานวิจัยในเรื่องต่าง ๆ หลายเรื่อง ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่า “น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์” สามารถบำบัดรักษาได้ทุกโรคจริง ๆ ดังที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้มีวจนะไว้ว่า...


ในวันนี้ KAMIL HABBATUSSAUDA จะขอนำเสนอแนวทางในการใช้ประโยชน์จากน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ตามแนวทางอายุรเวท ซึ่งเป็นการแพทย์แผนโบราณของอินเดีย ที่มีอายุยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นแนวทางแขนงหนึ่งของการแพทย์ทางเลือก 

“ฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ ฮับบะตุซเซาดาอ์” คือชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกในภาษาอาหรับ และเป็นที่นิยมเรียกกันในหมู่คนที่ไทยที่เป็นมุสลิม แทนคำว่า “ยี่หร่าดำ” ในภาษาไทย แต่ในประเทศอินเดียและปากีสถาน ซึ่งใช้ภาษาฮินดีและอูรดู จะเรียกฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือเจ้าเมล็ดสีดำนี้ว่าKalonji”

ในน้ำมันเมล็ดสีดำหรือฮับบาตุซเซาดะฮ์นั้น มีองค์ประกอบของสารอาหารมากกว่า 100 ชนิด มันเป็นสมุนไพรที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เยียวทั้งภายนอก (ได้แก่ โรคสะเก็ดเงิน, กลาก, ผิวที่แห้งกร้านตามข้อศอก หัวเข่า และนวดหนังศีรษะ) และนำมาใช้ภายใน เพื่อบำบัดรักษาความเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ  (เช่น หอบหืด, ไขข้ออักเสบ, เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน)

จากผลการศึกษาที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า Kalonji Oil หรือน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ, เป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย และต้านการอักเสบ ดังนั้น จึงมักจะนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับโรคที่มาจากการติดเชื้อต่าง ๆ โรคที่มาจากความเสื่อมของระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

ส่วนประกอบที่มีคุณค่าของน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ Kalonji Oil ประกอบด้วย โปรตีนประมาณ 21% คาร์โบไฮเดรต 38% ไขมันจากพืช 35% ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่จำเป็นต่อร่างกาย และมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและชีวิตประจำวัน



25 วิธีในการใช้ประโยชน์จากน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Kalonji Oil) ตามแนวทางอายุรเวท มีดังนี้

1. รักษาอาการหอบหืด (Asthma Attack)
ให้ผสมน้ำมัน Kalonji 10 หยด และน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาในน้ำอุ่น 1 แก้ว แล้วดื่มมันเป็นเครื่องดื่มในตอนเช้า และหลังอาหารค่ำอีก  1 ครั้ง เป็นเวลา 40 วัน เพื่อให้ได้รับผลการรักษาที่ดี

2. เลือดกำเดาออก (Bleeding of Nose)
เป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่อากาศร้อน ให้รักษาโดยเผากระดาษสีขาวสะอาดให้เป็นเถ้าถ่าน แล้วผสมกับน้ำมัน Kalonji 2 หยด หยอดใส่ภายในจมูก

3. แผลไฟไหม้ (Burns)
ผสมน้ำมัน Kalonji  5 กรัม น้ำมันมะกอก 30 กรัม Calamus (Buch) 15 กรัม และใบ Mehendi (หรือที่เรารู้จักว่าเฮนน่า) 80 กรัม ใช้ทาบนแผลไฟไหม้ เพื่อดับความร้อน ทำให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

4. จุกเสียดแน่นหน้าอก และมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร (Chest Irritation & Stomach Trouble)
ให้ผสม Kalonji oil  1/2 ช้อนชา กับนมอุ่น ๆ หนึ่งถ้วย ดื่มวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 3 วัน

5. ไอ & คัดแน่นจมูก (Cough & Congestion)
ให้ใช้น้ำมัน Kalonji ผสมกับเนย (Ghee เป็นเนยที่ใช้ทำข้าวหมก หรือแกงเนย เคยเห็นคุณแม่ใช้ และต้องไปซื้อที่บางรัก) และเกลือเล็กน้อย แล้วนำมาถูบริเวณลำคอและหน้าอกวันละครั้ง นอกจากนี้ ให้ใช้น้ำมัน Kalonji ½ช้อนชา รับประทานในตอนเช้าทุกวัน จะยังประโยชน์มากยิ่งขึ้น

6. ท้องผูก (Constipation)
ดื่มนมอุ่น ๆ ผสมกับน้ำมัน Kalonji 10 หยด และน้ำมันละหุ่ง 1 ช้อนชา

7. รังแค (Dandruff)
ผสมน้ำมัน Kalonji 10 กรัม, น้ำมันมะกอก 30 กรัม และผงเฮนน่า 30 กรัม นำมาอุ่นให้ร้อนสักครู่หนึ่ง เมื่อมันเย็นลงแล้วให้นำมาชโลมที่ศีรษะที่เป็นรังแค ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วสระล้างออกด้วยแชมพู

8. เบาหวาน (Diabetis)
ให้ดื่มชาดำ (black tea) 1 ถ้วย ผสมน้ำมัน Kalonji 1 ช้อนชา ดื่มวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน และยังคงใช้มันอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยเป็นเวลา 40 วัน หลังจากนั้นให้ไปตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด ถ้ามันอยู่ในระดับปกติ ก็ให้หยุดการดื่มชาดำ

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

13 คุณประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพจากน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil)


น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ Black Seed Oil เป็นสารสกัดที่จากเมล็ด ซึ่งดอกของมันมีชื่อเรียกว่า Nigella sativa ส่วนตัวเมล็ดนั้น บางทีเราก็เรียกว่า "เมล็ดสีดำ" บางทีก็เรียก "ยี่หร่าดำ"  โดยมันได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยโบราณ ในแถบตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ดังนั้น ในอียิป์โบราณ เราจึงสามารถพบเห็นเมล็ดสีดำนี้ อยูในสถานที่ฝังพระศพของ ฟาโรห์ Tutankhamen



คุณประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพของน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil)
  1. ป้องกันมะเร็ง (Cancer Prevention) ในงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่ง เราพบว่าสารสกัดในเมล็ดสีดำสามารถปกป้องเซลล์ที่มีสุขภาพดี และทำลายเซลล์ที่เป็นเนื้องอกหรือเนื้อร้าย ในขณะที่มันสามารถเพิ่มระดับของแอนตี้บอดี้ (antibodies) ในร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants), ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ รวมทั้งทุก ๆ องค์ประกอบที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง
  2. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง (High In Antioxidants) ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง จึงช่วยป้องกันการความเครียด (oxidative stress) ที่เกิดขึ้นกับเซลล์ และระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งสารสกัดไธโมควิโนน (thymoquinone) ที่แสดงให้เห็นว่า มันสามารถป้องกันโรคหัวใจ, โรคตับ และโรคไต จากการศึกษาทดลองในสัตว์
  3. ต้านการอักเสบ (Anti-Inflammatory) จากการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า   น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) สามารถลดการอักเสบ โดยการใช้   น้ำมันเมล็ดฮับบาตุซเซาดะฮ์ทาที่ผิวหนัง เพื่อลดความเจ็บปวด และบรรเทาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ
  4. ป้องกันอาการแพ้ (Antihistamine) มันเป็นสารธรรมชาติที่ช่วยต้านทานการปลดปล่อยฮิสตามีนของร่างกาย ที่เกิดจากการแพ้และการระคายเคือง โดยน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ได้แสดงให้เห็นว่า มันสามารถทำลายจุลินทรีย์ (microorganisms) ซึ่งเป็นเชื้อโรคขนาดเล็ก เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย ในการทดสอบทางแลป (lab)
  5. ต่อต้านแบคทีเรีย (Antibacterial) ผลงานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) มีความสามารถในการทำลายเชื้อแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ในระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งเชื้อรา, แคนดิดา (candida) และเชื้ออีโคไล (E. coli)
  6. ลดความดันโลหิต (Blood Pressure) มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สารสกัดสำคัญในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) สามารถลดความดันโลหิต
  7. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกั (Immune System Support)เจ้าหน้าที่ทางด้านสาธารณสุขของรัฐหลายคนกล่าวว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยการเพิ่มปฏิกิริยาที่มีต่อระบบภูมิคุ้มกัน และการผลิตสารแอนติบอดี้ (antibodies)
  8. ลดอาการภูมิแพ้ (Allergy Reliefการศึกษาในผู้ป่วย 152 ราย เมื่อปี 2003 พบว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) ช่วยลดอาการของโรคภูมิแพ้ และอาจจะเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับอาการแพ้  นอกเหนือจากนี้ ได้มีการศึกษาในผู้ป่วยอีก 600 ราย พบว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ช่วยลดอาการแพ้ได้ถึง 70% ของกรณีศึกษา
  9. รักษาโรคเบาหวาน (Diabetes) จากการศึกษาพบว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลกลูโคสและระดับอินซูลิน ที่สมดุลหลังมื้ออาหาร
  10. ส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Health) น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ได้แสดงให้เห็นว่า มันมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคหอบหืด และลดอาการของการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ และโรคหลอดลมอักเสบ
  11. ช่วยระบบย่อยอาหาร (Digestive Aid) มันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) ช่วยกระบวนการกำจัดสารพิษของร่างกาย ช่วยกระตุ้นน้ำดีในกระเพาะอาหาร และสามารถใช้เป็นยาระบาย
  12. รักษาโรคนอนไม่หลับ (Insomnia) การศึกษาแสดงให้ว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) สามารถช่วยขจัดความผิดปกติของการนอนหลับ เมื่อใช้รับประทานก่อนนอน
  13. ให้สุขภาพผิวที่ดี (Healthy Skin) น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวเรื้อรัง 

ดังนั้น ถ้าคุณต้องการที่จะทดลองใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) เพื่อเป็นยารักษาทางธรรมชาติ ที่ถือว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมวดอาหารเสริมแล้วล่ะก็ น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ที่สกัดด้วยวิธีบีบเย็น (cold-Pressed Oil) ที่บรรจุในรูปแคปซูล ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว

Source : http://www.healthdiaries.com/eatthis/13-health-benefits-of-black-seed-oil-.html

วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

KAMIL ฮับบาตุซเซาดะฮ์ สามารถรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ จริงหรือ??


“โรคเบาหวาน”  เป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลไปทั่วโลก ปัจจุบันเป็นสาเหตุการตาย อันดับที่ 4 ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลก

เบาหวานในประเทศไทย จากการประเมินความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ของสำนักพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ เมื่อ ปี 2549 พบว่า ประเทศไทยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานปีละ 2 หมื่นคน ความชุกของโรคเบาหวานในประชาชนชาวไทย อายุ 35 ปีขึ้นไป มีร้อยละ 9.6 (ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยเหล่านี้ ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวาน จึงสูญเสียโอกาสในการป้องกันและรักษา)





“เบาหวาน เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แล้วเราจะควบคุมและป้องกันภัยโรคเบาหวานได้ อย่างไร?

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ black seed oil  เป็นสมุนไพรที่สามารรักษาโรคมะเร็ง, หัวใจและหลอดเลือด, ความดันโลหิต, เบาหวาน, ภูมิแพ้, ไมเกรน, ข้อกระดูกเสื่อม ฯลฯ 

"ฮับบาตุซเซาดะฮ์" หรือที่คนไทยเรียกกันว่า "ยี่หร่าดำ" หรือ Black Cumin Seed หรือ Black Seed เป็นพืชสมุนไพรในแถบตะวันออกกลาง ที่ได้มีใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ มาช้านานเปรียบเสมือนเป็นยาสามัญประจำบ้านนั้น  โดยได้มีการใช้กันในหลายทุกภูมิภาคของโลกเป็นเวลากว่า 3,000 ปี  โดยเฉพาะในทางการแพทย์อิสลาม ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า :-

"ฮับบาตุซเซาดะฮ์ คือยาบำบัดทุกโรค เว้นแต่ความตาย"

งานวิจัยเกี่ยวกับโรคเบาหวาน
ในปี 1991  มหาวิทยาลัยคูเวต ได้สรุปว่า สารสกัดจาก Black Seed  มีประโยชน์ต่อการรักษาโรคเบาหวาน ที่ไม่มีการผลิตอินซูลิน (non-insulin)-เบาหวานชนิดที่ 1
ในปี 2002  มหาวิทยาลัยนาโกย่าญี่ปุ่นสรุปได้ว่า การใช้ Black Seed อาจจะมีค่านัยสำคัญต่อการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2
ในปี 2003  สามคณาจารย์ในเมือง Van ประเทศตุรกี ได้ร่วมกันและยืนยันว่า Black Seed สามารถทำให้ระดับน้ำตาลลดลง
ในปี 2004  คณะแพทยศาสตร์, Zonguldak Karaelmas University, Zonguldak, ประเทศตุรกี ได้สรุปว่า Black Seed สามารถป้องกันผลกระทบที่เกิดจากโรคเบาหวานได้
**ล่าสุด วารสาร Indian J Physiol Pharmacol. 2010 Oct-Dec; 54 ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยของ วิทยาลัยแพทย์ศาตร์, มหาวิทยาลัยคิงส์ไฟซอล, ประเทศซาอุดิอาระเบีย เรื่อง "ประสิทธิผลของการใช้ฮับบะตุซเซาดะฮ์  (Black Seed) ในการควบคุมระดับน้ำตาล (glucose) ในเลือดของผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2"  ผลการวิจัยสรุปว่า : การใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์ ในขนาด 2 กรัม/วัน ช่วยลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2  ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
"KAMIL ฮับบบาตุซเซาดะฮฺ  คือ น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮฺ บริสุทธิ์ 100% สกัดด้วยวิธีบีบเย็น (clod pressed) จึงสามารถรักษาคุณค่าของสารอาหารที่อยู่ในเมล็ดได้มากกว่ากรรมวิธีอื่น ๆ  มีระดับที่เข้มข้นสูง จะสังเกตได้จากสีของน้ำมันซึ่งเป็นสีชาแก่ ๆ  ปลอดสารเคมี และมิได้มีการเติมเต็มด้วยส่วนผสมของน้ำมันอื่น (เช่น น้ำมันมะกอก) ที่ทำให้ประสิทธิผลในการบำบัดรักษาลดน้อยลง  ดังนั้น จึงให้ประสิทธิภาพและผลในการบำบัดรักษาสูง และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนตรงตามสรรพคุณหรือคุณสมบัติที่มีอยู่ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์นั่นเอง

ผู้ใช้ KAMIL ฮับบาตุซเซาดะฮ์  เป็นจำนวนหลายราย 
ใช้แล้วได้รับผลตอบรับที่ดีค่ะ ระดับน้ำตาลในเลือด
ลดลง อย่างเห็นได้ชัด เพียงรับประทาน KAMIL HABBATUSSAUDA วันละ 2-4 แคปซูลต่อวันเท่านั้น