วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

ขนาดและวิธีในการรับประทานน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ Black Seed Oil

การรับประทานน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) นั้น ข้อบ่งใช้ในการรับประทาน คือ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรรับประทานก่อนอาหาร หรือขณะท้องว่าง  แต่สำหรับขนาดในการรับประทานนั้น ไม่มีขนาดรับประทานที่แน่นอน ตายตัว ว่าต้องรับประทานวันละกี่เม็ด กี่มื้อ  ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของภูมิหลังของแต่ละคน เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก สตรี คนชรา ผู้ที่โรคเจ็บป่วยเรื้อรังหลายโรค และโรคที่เป็นอยู่ภายในของแต่ละคน ซึ่งอาจแตกต่างกับไปตามชนิดของโรค ไม่เหมือนกันหมดทุกคน  
บางคนอาจรู้สึกว่า ตนเองสุขภาพดีอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาสุขภาพ ก็สามารถทานได้เช่นกัน  ทั้งนี้ เพื่อเสริมสุขภาพร่างกาย ให้น้ำมันเข้าไปซ่อมแซมสุขภาพบางจุดที่เสื่อมลง หรือปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย  ต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือสารพิษต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายของเราคนเราได้ทุกเมื้อเชื่อวัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ในบางครั้งและก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า “เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เรามีปัญหาสุขภาพ หรือโรคแทรกซ้อนอยู่ภายใน หรือไม่?” หากอาการของโรคยังไม่แสดงออกมาให้เห็นเด่นชัด  ยกตัวอย่างเช่น โรคร้ายแรงที่ฆ่าชีวิตคนไทย เป็นอันดับหนึ่ง ก็คือ โรคมะเร็ง  ผู้ป่วยหลายคนกว่าจะรู้ตัวว่าเป็น ก็เมื่ออาการถึงขั้นที่เกินกว่าจะเยียวยา เสียแล้ว

ดังนั้น น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) จึงเป็นสมุนไพร หรือจะเรียกว่า “ยา” ก็ได้เช่นกัน  เพราะมันมีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคทุกโรค  ทั้งโรคที่เกิดจากความเสื่อมตามสภาพในร่างกาย และโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทุกชนิด  อีกทั้งเป็นทางเลือกหรืออาหารเสริมในการดูแลรักษาสุขภาพ  และสามารถรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย  แม้แต่เด็กทารกเล็ก ๆ ก็ยังสามารถรับประทานได้ ไม่มีผลข้างเคียง หรือันตรายใด ๆ จาการทานต่อเนื่อง หรือสะสมของยา  เพราะมันเปรียบเสมือนอาหาร  แต่จะมีข้อยกเว้นในการรับประทาน ก็คือ “ห้ามรับประทาน ในคนที่ตั้งครรภ์หรือท้องอ่อน ๆ”  เนื่องจากน้ำมันมีคุณสมบัติในการบีบมดลูก จึงอาจเป็นอันตรายแก่ทารกในครรภ์  ซึ่งอาจทำให้แท้งได้  แต่ในคนที่ครรภ์แก่ใกล้คลอดแล้ว สามารถรับประทานน้ำมันนี้  เพื่อช่วยให้คลอดบุตรได้ง่าย (หรือมีลมเบ่งในการคลอดนั่นเอง)  ส่วนสตรีที่ประจำเดือนมาไปไม่ปกติ หรือปวดประจำ ก็สามารถรับประทานได้ จะช่วยปรับความสมดุลของระดับฮอร์โมน



KAMIL HABBATUSSAUDA : มีขนาดรับประทานที่ระบุไว้ในฉลากข้างขวด คือ ครั้งละ 1-3 แคปซูล วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร (เช้า-กลางวัน-เย็น)  ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรังหลายโรค อาจปรับเพิ่มขนาดรับประทานได้ถึง 4 แคปซูล ก็ได้ ทั้งนี้ จากประสบการณ์จริง ของตนเองเคยรับประทานถึง ครั้งละ 4 แคปซูล  โดยเริ่มต้นครั้งแรกในการรับประทานที่ครั้งละ 2 แคปซูล  หลังจากนั้นปรับเพิ่ม เป็นครั้งละ 3 แคปซูล มาเป็นระยะเวลานาน แต่ยังไม่ดีขึ้นในบางเรื่อง ก็ทดลองทาน จนถึง 4 แคปซูล ได้ระยะหนึ่ง  เมื่อรู้สึกสบายตัวขึ้น ก็ปรับลดลงมาเป็น 3 และ 2 ตามลำดับ  จนกระทั่งเห็นว่าสุขภาพดีแล้ว ก็ปรับเป็นทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า-เย็น (หรือก่อนนอน)  และบางช่วงอาจหยุดทานไปเลยชั่วระยะหนึ่งก็ได้  แล้วก็กลับมาเริ่มต้นทานใหม่

สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพมากมาย ทานเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ อาจทานมื้อละ 1 แคปซูล วันละ 3 เวลา หรือครั้งละ 2 เม็ด เช้า-เย็น  ส่วนเด็กเล็ก 7 ขวบขึ้นไป อาจทานมื้อละ 1 แคปซูล เช้า-เย็น  หรือถ้าเด็กเล็กมาก จะทานแค่วันละ 1 แคปซูล ก็ได้  ถ้าเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถทานยาเม็ดได้  ให้แกะแคปซูลออกใช้น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ในแคปซูล ผสมในเครื่องดื่ม เช่น นมอุ่น น้ำผลไม้  (ไม่ควรผสมในเครื่องดื่มที่เย็น)


ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือกรดไหลย้อน ให้ทานน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ผสมกับนมอุ่น ๆ ก็จะทำให้ดีขึ้น และหรือนำมาทานก่อนนอนก็ทำให้หลับสบาย  ส่วนผู้ที่มีอาการหอบหืด หรือจับหอบ ขึ้นมาเฉียบพลัน ให้ใส่น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ในกาแฟร้อน ๆ แล้วค่อยๆ ดื่ม จะทำให้หายใจโล่งขึ้น และหายหอบ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้สูดเอาน้ำมันหอมระเหยที่ถูกความร้อน และระเหยออกมา  นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ทาภายนอก คือใส่แผลสด แผลเริม แมลงสัตว์กัดต่อย หรือทาถูนวดแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ได้อีกด้วย

สรุปว่า หมอที่ดีที่สุดก็คือตัวเรานั่นเอง  เพราะรู้ความเจ็บป่วยภายในของตนเอง และรู้สึกได้ถึงผลตอบรับจากการรับประทาน  จึงสามารถสังเกตอาการและปรับขนาดยาได้ตามความเหมาะสม กับสภาพร่างกายของตนเอง  เพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกว่าตนเองดีขึ้น สบายตัวขึ้น สดชื่นขึ้น เมื่อรับประทานยาในขนาดนั้น ขนาดนี้นั่นเองค่ะ

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ สามารถรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV) ได้

ณ วันนี้เราอาจจะพูดได้ว่า แทบไม่ต้องใช้วิธีการทางการแพทย์ในการ “รักษาโรค”  เนื่องจากมีกรณีศึกษาที่น่าทึ่งเกี่ยวกับ “ผู้ป่วยเอดส์ HIV Nagative” ที่สามารถบำบัดรักษาด้วยการใช้สารสกัดจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ เมล็ดสีดำ (Black Seed) และได้ผลในการบรรเทาอาการอย่างต่อเนื่อง จึงแสดงให้เห็นทางเลือกที่ปลอดภัย ซึ่งผู้คนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยราคาที่ไม่แพง แทนที่การใช้ยาต้านไวรัส HIV ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งให้ผลข้างเคียงในความเป็นพิษสูงมาก



Nigella Sativa ที่เราเรียกว่าเป็น ฮับบาตุซเซาดะฮ์  หรือ Black Seed ได้มีการศึกษากันอย่างจริงจังและกว้างถึงคุณสมบัติและประโยชน์ของมันที่มีผลต่อสุขภาพ  และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ค้นพบสัญญาณหนึ่ง ซึ่งเชื่อได้ว่า ฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed) สามารถเป็นตัวแทนในการรักษาโรคที่อาจเกิดการติดเชื้อไวรัสร้ายแรง รวมทั้งไวรัสตับอักเสบซี [i] และปัจจุบันนี้ (ปี 2013 ปีที่เขียนบทความ) สามารถรักษาโรคเอดส์ (HIV)

จากกรณีศึกษาที่น่าทึ่ง ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนสิงหาคมของปีนี้ (ปี 2013) ในวารสาร African Journal of Traditional, Complementary, and Alternative Medicine  กล่าวว่า ผู้ป่วยเอดส์ (HIV) หลังจากได้รับการรักษาด้วยสารสกัดจากฮับบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed)  มีผลลัพธ์สามารถฟื้นคืนสุขสภาพได้อย่างสมบูรณ์  โดยไม่มีการตรวจพบเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือสารแอนติบอดี้ ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านเชื้อ HIV ในซีรั่มเลือดของพวกเขา ทั้งในระหว่างการรักษาและระยะยาวหลังการรักษาสิ้นสุดการรักษา [ii]

นี่เป็นข้อสังเกตที่น่าทึ่งและไม่อาจคาดคิดมาก่อน จากการอธิบายของนักวิจัยและทีมงาน ดังนี้ 
"Nigella sativa หรือ ฮับบาตุซเซาดะฮ์ ได้รับการรับรองว่า มีฟังก์ชั่นในการรักษาจำนวนมาก ที่ถือได้ว่าเป็นยารักษาโรค  ซึ่งอย่างน้อยที่สุดก็คาดได้ว่า มันสามารถสร้างปรากฏการณ์พลิกกลับที่ทำให้ ค่าการติดเชื้อ HIV เป็นศูนย์ (0) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แม้จะมีการรักษากันอย่างกว้างขวาง ด้วยการใช้ยาต้านไวรัส (HAART)"

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการรักษาโดยทั่วไป ที่เป็นมาตรฐานของการดูแลรักษาโรคเอดส์ทั่วโลก รักษาด้วยยาต้านไวรัส ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมาก  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบต่อสุขภาพอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) นี่คือความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการติดเชื้อ และได้รับการบำบัดรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม พบว่าการทำงานของเลือดยังไม่มีอาการอื่นใด  ผู้ป่วยยังคงมีสุขภาพดี  แต่การรักษาด้วยยาเป็นประจำ จะมีผลให้เชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถที่จะกลายพันธุ์ และมีความต้านทานที่แข็งแกร่งต่อยา หรือเรียกว่า “การดื้อยา” มากขึ้นของเชื้อ HIV ที่อยู่ในร่างกาย  ขณะที่ในเวลาเดียวกัน “ยา” ที่ใช้ได้สร้างความเสียหายที่รุนแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยอย่างน่าเศร้า  ทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันลดลง และถึงแก่ความตายในที่สุด

"โรค" โดยตัวของมันเอง ก็เป็นปัญหาที่รู้จักกันดีว่า เราประสบกับความล้มเหลว เช่นเดียวกับการทำสงครามกับมะเร็ง ที่ 'เหยื่อ' (ผู้ป่วย) และ 'โรคมะเร็ง' ได้รับความล้มเหลวไม่หยุดหย่อน และแม้ว่าจะมีการส่งเสริมในเรื่องของการให้เคมีบำบัด การฉายรังสี และการผ่าตัด ก็ตาม

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในสมัยโบราณเราจึงใช้อาหารเป็นเสมือนการรักษาโรค ดังเช่นที่เราใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ เมล็ดสีดำ (Black Seed) ซึ่งการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โดยทั่วไปการใช้ฮับบาตุซเซาดะฮ์ เป็นยาในการบำบัดรักษาโรค มีความปลอดภัย ราคาไม่แพง และสามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถรักษาโรคเอดส์ (HIV) ได้ ซึ่งถือว่าเป็นที่เรื่องที่น่าตื่นเต้นทีเดียว


ผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV) ฟื้นคืนเป็นปกติอย่าง 'ปาฏิหาริย์'
เริ่มแรกของการศึกษาทดลอง ผู้ป่วยมีอาการโดยทั่วไปที่พบได้ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยมีประวัติ เป็นไข้เรื้อรัง ท้องเสีย น้ำหนักลดในระดับปานกลาง และมีอาการคันแผล เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ในระหว่างการศึกษาทดลอง ผู้ป่วยได้รับยา ร่วมกับการรับประทานน้ำมันฮับบบาตุซเซาดะฮ์ (Black Seed Oil) 10 MLS วันละสองครั้ง เป็นเวลา 6 เดือน

ผลการทดลองพบว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื้อไวรัสลดลงในระดับที่เชื่อถือได้ (significant) มีนัยยะสำคัญทางสถิติ

"ไข้ท้องเสีย และอาการคันแผลหายไป เมื่อวันที่ 5, 7 และ 20 วันตามลำดับ ในการรักษาด้วย Nigella sativa หรือฮับบาตุซเซาดะฮ์  ค่า CD4 ลดลงถึง 160 เซลล์ / mm3 แม้จะมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปริมาณไวรัส (≤1000 copies / ml) ในวันที่ 30 ของการใช้  Nigella sativa"

โดยในวันที่ 187 ของการรักษาด้วยเมล็ดสีดำ Black Seed การทดสอบแสดงให้เห็นว่า เลือดก็เคลียร์ทั้งหมดในเรื่องของสัญญาณของการติดเชื้อ ซึ่งอยู่ในสถานะที่เรียกว่า 'Zero-Nagative

หลังจากติดตามการทดสอบแสดงให้เห็นว่า แม้หลังจากการรักษา เป็นเวลา 24 เดือน โดยไม่ต้องรักษาด้วยการใช้สมุนไพร น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ Black Seed Oil ของผู้ป่วยเอดส์ การทดสอบพบว่า ผู้ป่วยยังคงมีอาการปกติ โดยที่ไม่มีข้อบ่งชี้ของการติดเชื้อใด ๆ หรือมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น  ดังนั้น พวกเขาทีมงานวิจัยในครั้งนี้  

จึงสรุปว่า : "รายงานการศึกษาทดลองในกรณีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่า การใช้รักษา Nigella sativa ในการรักษานั้น สามารถใช้เป็นตัวแทนในการรักษาที่เป็นไปได้และมีประสิทธิภาพ ในการควบคุมการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้"
-----------------
เอกสารอ้างอิง :
[i] Eman Mahmoud Fathy Barakat, Lamia Mohamed El Wakeel, Radwa Samir Hagag. Effects of Nigella sativa on outcome of hepatitis C in Egypt.  World J Gastroenterol. 2013 Apr 28;19(16):2529-36. doi: 10.3748/wjg.v19.i16.2529.
[ii] Abdulfatah Adekunle Onifade, Andrew Paul Jewell, Waheed Adeola Adedeji. Nigella Sativa Concoction Induced Sustained Seroreversion in HIV Patient. Afr J Tradit Complement Altern Med. 2013 Aug 12;10(5):332-5.

Source : Thank you very much for this website

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ บำบัดรักษาโรคได้ทุกโรค จริงหรือ?

ท่านศาสดาแห่งอิสลาม มุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้มีวจนะไว้เป็นเวลากว่า 1,400 ปีมาแล้ว ท่านกล่าวว่า “ฮับบาตุซเซาดะฮ์ เป็นยาบำบัดทุกโรค เว้นแต่ความตาย”  วจนะของท่านเป็นสัตย์จริง  ถ้าหากท่านติดตามอ่านบทความต่าง ๆ ในเว็บบล็อกนี้ ท่านก็จะพบว่า ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ black seed oil มีสารอาหารมากมาย กว่าหลายร้อยชนิด ที่ช่วยในการบำบัดรักษาโรค ทั้งโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย และโรคที่มาจากการติดเชื้อ  เพราะในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (black seed oil) มีสารอาหารที่เป็นตัวยาต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งเซลล์มะเร็ง และฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต

คงไม่มีผู้กล้าที่จะปฏิเสธคุณสมบัติอันน่ามหัศจรรย์ ในการบำบัดโรคของน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์   แต่เราจะได้รับประสิทธิภาพและประสิทธิผล จากการบริโภคน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ มากน้อยเพียงใดนั้น มีเงื่อนไขอยู่หลายประการ  เช่น
1.      ปริมาณในการบริโภค (doze ที่ได้รับนั้น เพียงพอแก่การบำบัดโรค หรือเยียวยาสุขภาพ ของผู้บริโภค หรือไม่  เนื่องจากอายุ เพศ วัย และพื้นฐานสุขภาพของแต่ละคนแตกต่างกัน และหมอที่รักษาหรือกำหนดขนาดยา (หมายถึง น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์) ในการบริโภคได้ดีที่สุด ก็คือ ตัวเราเอง หรือผู้บริโภค  
2.     ความแตกต่างของเมล็ดพันธุ์ ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวและการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ 
3.     ที่สำคัญที่สุด คือ ขั้นตอนในการสกัดน้ำมันมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด  เพราะว่า สารอาหารสำคัญนั้น จะอยู่ในตัวน้ำมันหอมระเหย ที่กลั่นออกมาก

ดังนั้น น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ black seed oil ที่ดีที่สุดนั้น จะต้องมาจากน้ำมันที่สกัดออกมาด้วยวิธีบีบเย็น หรือ cold pressed และน้ำมันที่มีคุณภาพมากที่สุด คือ Extra Vergin Oil ถือว่าเป็นน้ำมันคุณภาพได้มาตรฐานสูงเป็นพิเศษ ไม่มีการใช้กระบวนการเคมี หรือความร้อน มีปริมาณ free fatty acid ไม่เกิน 1% มีความบริสุทธิ์ ยังคงสี กลิ่น และรสตามธรรมชาติของพืชชนิดนั้น ๆ ไว้ดีที่สุด จึงมีราคาแพง

การสกัดน้ำมันแบบบีบเย็น (Cold pressed) คือ การแยกส่วนของน้ำมันออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของพืชอย่าง เมล็ด หัว ใบ ดอก ผล และเปลือก โดยการบีบอัดที่อุณหภูมิปรกติ โดยพืชที่นำมาสกัดเย็นจะต้องไม่ผ่านความร้อนหรือสารเคมีมาก่อน หลังจากได้น้ำมันออกมาแล้วตั้งทิ้งไว้จนตกตะกอน จากนั้นจึงกรองเอาเฉพาะส่วนของน้ำมันที่บริสุทธิ์มาใช้ น้ำมันที่ได้จะใส สะอาด ไม่มีกลิ่นหืน และยังคงสภาพวิตามินต่าง ๆ ตามธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน

อุปกรณ์ในการสกัดน้ำมันมีหลายประเภท ตั้งแต่ขนาดเล็กที่ทำได้เองภายในครัวเรือน ขนาดใหญ่ที่ใช้สกัดในปริมาณมาก ๆ ในโรงงานขนาดเล็ก และขนาดที่ใช้ภายในโรงงานผลิตขนาดใหญ่  ซึ่งแต่ละขนาดนั้นมีกระบวนการหรือกรรมวิธีในสกัด และการควบคุมคุณภาพของน้ำมันที่แตกต่างกัน  ดังนั้น ประสิทธิภาพหรือสารอาหารที่ได้จากน้ำมันสกัดจึงแตกต่างกันนั่นเอง  และนี่คือ เหตุผลที่ว่า “ทำไมน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ เหมือนกัน จึงมีคุณภาพแตกต่างกัน?”


ลองมาชมอุปกรณ์ที่ใช้ในการสกัดน้ำมันจากคลิปวิดีโอ เหล่านี้เปรียบเทียบกันนะคะ

อุปกรณ์สกัดน้ำมัน แบบ Home made


อุปกรณ์การสกัดที่ควบคุมแบบ manaual ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น


การผลิตในโรงงานขนาดใหญ่ ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ
ขั้นตอน มาตรฐาน และความสะอาดในการผลิตได้มากยิ่งขึ้น

อุปกรณ์สกัดน้ำมัน Clod pressed machine มีหลากหลายชนิด  แตกต่างกันไปตามกระบวนการผลิต และขั้นตอนในการควบคุมคุณภาพของน้ำมัน และการรักษาระดับอุณหภูมิในขั้นตอนการผลิตก็เป็นสิ่งสำคัญ (อุณหภูมิในขณะที่เครื่องสกัดบีบอัดน้ำมัน จะต้องต่ำกว่า 120 องศาฟาเรนไฮต์) รวมทั้งการควบคุมในเรื่องความสะอาด และสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ หรือความชื้นของเมล็ดพันธุ์ ก่อนนำเข้าสู่ขบวนการสกัด  ตลอดจนควบคุมความสะอาด และสิ่งปนเปื้อนภายหลังจากได้รับผลผลิตออกมา จนกระทั้งบรรจุเป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมนำส่งถึงมือผู้บริโภค

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ของ KAMIL ปรับราคาใหม่

น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ ของ KAMIL HABBATUSSADA
เดิมทีตั้งแต่เปิดกิจการใหม่ ๆ เมื่อปีตั้งแต่ปี 2555 เราขายปลีกอยู่ที่กระปุกละ 1,200 บาท และราคาแนะนำสำหรับลูกค้า ที่รับประทานอย่างต่อเนื่อง คือ ขายเป็นชุด ๆ ละ 3 กระปุก ราคา 3,100 บาท (รวมค่าจัดส่ง EMS)



ปัจจุบันน้ำมันบาตุซเซาดะฮ์ หรือ Black Seed Oil ของ KAMIL ได้ปรับราคาลง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง และเพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อของดีมีคุณภาพในราคาที่ประหยัดลง  จึงขายปลีกในราคา กระปุกละ 800 บาท.. แต่ทว่าคุณภาพยังคงดีเยี่ยม เหมือนเดิมทุกประการนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาแล้วจ้ะ..สินค้าใหม่สด จาก KAMIL HABBATUSSAUDA

สินค้า LOT ใหม่มาแล้วนะคะ ใหม่สด!! จากโรงงาน
LOT นี้ ควรบริโภคก่อน ธันวาคม 2559

Best before : DEC 2016

KAMIL HABBATUSSAUDA (Black Seed Oil 100%)

วันนี้มาแนะนำให้รู้จักกับ น้ำมันฮับบาตุซเซาะดะฮ์ หรือ Black Seed Oil, Black Cumin Oil ของ KAMIL ในอีกมุมมองหนึ่ง ในเรื่องของการได้รับอนุญาตทางด้านอาหารและยา หรือที่เมืองไทยเรียกว่า อย. และการรับรอง ฮาลาล หรือ Halal นะคะ 

โดยสามารถดูฉลากที่ข้างกระปุกของ KAMIL HABBATUSSAUDA จะพบคำที่เขียนว่า
(1) No. Sert. Halal LP POM MUI : 
หมายถึง เลขที่ใบรับรองฮาลาล จาก Lembaga Pengawasan Pangan Obat dan Makanan Majelis Ulama Indonesia หรือ สถาบันอาหารและยา แห่งสภาอุละมาอฺอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสถาบันที่มีประสิทธิภาพในการวิจัย, ตรวจสอบ, การวิเคราะห์ และตัดสินใจว่า ผลิตภัณฑ์ อาหาร ยา และเครื่องสำอาง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี มีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค ทั้งในแง่ของสุขภาพ และความถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลาม จึงถือว่าผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองแล้ว  ฮาลาลหรือได้รับอนุญาต และเป็นสิ่งที่ดี (ฏ็อยยิบ) ที่มุสลิมจะนำมาบริโภค 

และที่เขียนว่า : untuk kapsul kosong : 00140016360701
แปลว่า แคปซูลเปล่า เลขที่ 00140016360701 ที่นำมาใช้บรรจุ KAMIL HABBATUSSAUDA ได้รับใบรับรองจากสถาบันอาหารและยา แห่งสภาอุละมาอฺในประเทศอินโดนีเซีย หรือได้ใบรับรองแคปซูลเปล่าเลขที่ 00140016360701 นั่นเองค่ะ

(2) Dep.kes. RI SP No. 1873/13.01/02
คือ ใบรับรองตัวโรงงานผลิตยา จากกรมอนามัย ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเลขที่ตัวนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

(3) Lzin POM TR : 133370581
คือ เลขที่ใบอนุญาตจาก สำนักงานอาหารและยา หรือ อย.ของอินโดนีเซีย นั่นเองค่ะ สังเกตว่า เลขที่นี้จะเปลี่ยนไปตาม lot หรือ ฉลาก ซึ่งหมายความว่า พอเปลี่ยนฉลากทีหนึ่ง หรือบรรจุยาลงกระปุกใน lot ใหม่ ทางโรงงานผู้ผลิตจะต้องขอรับใบอนุญาต จากทางสำนักงานอาหารและยา (POM) ทุกครั้ง  

นั่นก็หมายความว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ Black Seed Oil ของ KAMIL 
มีมาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัย และผ่านการตรวจสอบและรับรอง จากทางราชการของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตทุกครั้ง ที่ผลิตยาแต่ละ lot
 

ดังนั้น คุณจึงมั่นใจได้ว่า KAMIL HABBATUSSAUDA เป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ และปลอดภัย 100%