วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เมล็ดสีดำ ความหวังของผู้ป่วยโรคหอบหืดกว่า 300 ล้านคน

ในที่สุดเราก็ได้พบวิธีการทางธรรมชาติ ที่ปลอดจากการใช้สเตียรอยด์ (steroid-free) ในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของผู้ป่วยโรคหอบหืดทั่วโลก ที่มีมากกว่า 300 ล้านคน และนำไปสู่​​การเสียชีวิตมากกว่า 250,000 คนในทุกปี  

“น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์” : วิธีการทางธรรมชาติในการเอาชนะโรคหืดหอบ



โรคหืดหอบมีสาเหตุและปัจจัยมาจากสิ่งแวดล้อมและพันธุกรรม ที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผลงานวิจัยใหม่ได้แสดงให้เห็นว่า น้ำมันจากเมล็ดเล็กๆ สีดำ (Black Seed) จากเอเชียตะวันตกอาจจะเป็นกุญแจสำคัญ  ทั้งในด้านการป้องกันและรักษาระบบภูมิคุ้มกันซึ่งนำไปสู่อาการหอบหืด

ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ (เมล็ดสีดำ) มีองค์ประกอบสำคัญกว่า 100 ชนิด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่า มีคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งมีศักยภาพหลากหลายมากที่สุดในการเป็นสาร​​ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามิน B, กรดอะมิโน 15 ชนิด, กรดไขมันที่จำเป็น รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ มากมายหลายชนิด อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเชื่อว่า สารที่เรียกว่า 'nigellone'  อาจเป็นตัวการสำคัญ  ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายให้ปลอดภัยจากการเกิด ฮิสตามีน (Histamine) ที่ทำให้เกิดการหดเกร็งของหลอดลม  และมีนัยสำคัญในการบรรเทาอาการของโรคหอบหืด, โรคหลอดลมอักเสบ และอาการไอทั่วไป

ผู้ป่วยโรคหืดหอบ ที่เป็นผู้ใหญ่ ได้ถูกสุ่มคัดเลือก แบ่งออกเป็นกลุ่มควบคุม (14 ราย) และกลุ่มที่ได้รับการรักษา (15 ราย)  โดยการตรวจสอบและควบคุมอาการเป็นระยะเวลา 3 เดือน ด้วยการกำหนดค่าคะแนนของอาการ ได้แก่ ความรุนแรง, ความถี่ของอาการหอบ/สัปดาห์ และการหายใจมีเสียง (wheezing)  โดยได้มีการบันทึกไว้ในครั้งแรก จากนั้นได้มีการบันทึกอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 หลังจาก 45 วันของการควบคุม และท้ายสุดครั้งที่ 3 ในช่วงสุดท้ายของการศึกษา โดยประเมินค่าจากการทดสอบสมรรถภาพปอด (PFTs) และการให้ยาของผู้ป่วยทั้ง
สามช่วง

นักวิจัยพบว่า อาการหอบหืด, ความถี่ของอาการหอบ/สัปดาห์, เสียงปอด (wheezing) และค่า PFT ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาดีขึ้น อย่างมีนัยสำคัญในการประเมินค่าครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการมาตรวจวัดค่าในครั้งแรก นอกจากนี้ เสียงหายใจ (wheezing) และความรุนแรงของโรคที่ตรวจพบในครั้งที่ 3 ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับการตรวจวัดในครั้งที่ 2 ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา โดยมีนัยสำคัญมากที่สุดในการตรวจวัดครั้งที่ 3 (ครบ 90 วัน) อาการทั้งหมดของกลุ่มที่ได้รับการรักษา แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากกลุ่มที่ถูกควบคุม

นอกจากนี้ นักวิจัยพบว่า การใช้เครื่องสูดดมหรือพ่นยา (ß-agonists) และการให้ยาสเตียรอยด์ทางปาก (oral corticosteroid), ยาขยายหลอดลม (oral theophylline)  รวมทั้งการสูดยาสเตียรอยด์ (corticosteroid) ในผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับการรักษามีจำนวนลดลงเมื่อสิ้นสุดการศึกษา  ในขณะที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในการใช้ยาของผู้ป่วยในกลุ่มควบคุม

นักวิจัยสรุปได้ว่า ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า น้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮฺ (Nigella sativa Oil) สามารถบรรเทาและป้องกันอาการโรคหอบหืด และใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการวิจัยครั้งต่อไป

Posted by : https://taylor-jackson.com on September 14, 2010
แปลโดย : KAMIL HABBATUSSAUDA

-----------------------------------

Source :  The possible prophylactic effect of Nigellasativa seed extract in asthmatic patients”, Fundamental & Clinical Pharmacology, Volume 21, Number 5, October 2007, pp. 559-566(8).

Authors : Boskabady, Mohammad Hossein*;  Javan, H.; Sajady, M.;  Rakhshandeh, H.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ