ลำไส้เล็กมีลักษณะเป็นลอนตามขวาง มีตุ่มเล็ก ๆ มากมายยื่นออกมา เรียกว่า “วิลไล” (Villi) เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวในการดูดซึมสารอาหารที่ย่อยแล้ว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแหล่งที่ดูดซึมสารอาหารมากที่สุด
โครงสร้างลำไส้เล็ก แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. ลำไส้เล็กตอนต้น (Duodenum) เป็นส่วนที่ต่อจากกระเพาะอาหาร และสั้นกว่าส่วนอื่น
2. ลำไส้เล็กส่วนกลาง (Jejunum) อยู่ถัดไปจากลำไส้เล็กตอนต้น ยาวประมาณ 8-9
ฟุต
3. ลำไส้เล็กส่วนปลาย (Ileum) หรือส่วนสุดท้าย ตอนปลายจะติดต่อกันเป็นมุมฉากกับลำไส้ใหญ่บริเวณไส้ติ่ง เป็นส่วนที่ยาวมากที่สุด มีหน้าที่ในการดูดซึมอาหารมากที่สุด และมีการย่อยอาหารมากที่สุด
สาเหตุมะเร็งลำไส้เล็ก
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่พบอุบัติการณ์ของโรคนี้สูงในกลุ่มคนที่ชอบบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์
ไขมันในปริมาณสูง ดื่มสุรา
และมีการอักเสบระคายเคือง หรือมีแผลเรื้อรังบริเวณลำไส้เล็ก
รวมถึงผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้เล็ก
มะเร็งลำไส้เล็กเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก โดยมักพบในผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
ชนิดมะเร็งที่พบในลำไส้เล็ก มี
5 ชนิด คือ
1) adenocarcinoma เป็นชนิดที่พบมากที่สุด เริ่มที่เซลล์ในเยื่อบุของลำไส้เล็ก
ซึ่งส่วนใหญ่เนื้องอกเกิดขึ้น ในส่วนของลำไส้เล็กที่ใกล้กับกระเพาะอาหาร เนื้องอกจะเจริญเติบโตและอุดกั้นลำไส้
2) sarcoma
เป็นกลุ่มของมะเร็งเนื้อเยื้อ ที่พบได้ในกระดูก กระดูกอ่อน ไขมัน กล้ามเนื้อ หลอดเลือด เม็ดเลือด
3) carcinoid
tumors เป็นกลุ่มของเนื้องอกมะเร็งที่มีการเจริญเติบโตช้า
แต่ก็อาจจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะ ส่วนอื่น ๆ ได้
4) gastrointestinal
stromal tumor คือเนื้องอกในทางเดินอาหาร
5) lymphoma
(มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) จะเริ่มในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็ก
ส่วนใหญ่ของเนื้องอกเหล่า นี้เกิดขึ้นในส่วนของลำไส้เล็กที่ใกล้กับลำไส้ใหญ่
อาการแสดงออกของโรค
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือถ่ายดำ น้ำหนักลด มีไข้ หรือมีภาวะลำไส้อุดตัน คือจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
อาเจียน อาจคลำได้ก้อนในบริเวณช่องท้อง
การวินิจฉัยโรค
1. ตรวจอุจจาระ ในระยะเริ่มแรกไม่ค่อยมีอาการ
ทำให้ยากที่จะตรวจพบ
ในบุคคลที่มีปัจจัยเสี่ยงจึงควรตรวจเช็คเสียแต่เนิ่น ๆ ควรตรวจเลือดซ่อนเร้นใน อุจาระ (Stool
occult blood) ส่วนในผู้ป่วยที่มีอาการ
อาจเป็นอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจง เช่น เบื่ออาหาร ผอมลง อ่อนเพลีย ต้องเริ่มวิเคราะห์จากอาการที่เป็น
ในบางอาการอาจพอที่จะระบุได้ว่าเป็นอวัยวะใด แต่มักไม่จำเพาะว่าต้องเป็นมะเร็ง
จำเป็นต้องทำการตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติม
2. การส่องกล้อง เพื่อส่องดูระบบทางเดินอาหารบริเวณลำไส้เล็กส่วนบน
และมีการนำระบบอุลตร้าซาวด์มาใช้กับกล้องได้ด้วย ได้แก่
· การส่องกล้องดูหลอดอาหาร
กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนบน(Esophagastroduodenoscopy)
· การส่องกล้องดูลำไส้เล็ก
( Enteroscopy)
· การใช้ระบบอัลตราซาวด์กับการส่องกล้อง
(Endoscopic Ultrasonography)
3. การตรวจสารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ (carcinoembryonic antigen, CEA) มี ประโยชน์ในการติดตามผู้ป่วยมะเร็งลำไส้หลังรักษา
ว่ามีการตอบสนองหรือเกิดซ้ำหรือไม่ แต่ไม่ควรใช้ในการเฝ้าระวังหรือตรวจหาในคนทั่วไป เพราะไม่มีความไวหรือความจำเพาะเจาะจงเพียงพอ
กล่าวคือ สารนี้ปกติหรือขึ้นสูงได้ในคนปกติ
และสารนี้อาจปกติได้ในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้
4. การวินิจฉัยโรคทางเดินอาหารด้วยการกลืนแคปซูล (Capsule
Endoscopy) ขั้นตอนการวินิจฉัยเริ่มจากการให้คนไข้กลืนแคปซูลพร้อมน้ำโดยไม่ต้องเคี้ยว หลังจากนั้นแคปซูลจะเดินทางไปตามส่วนต่าง ๆ
ของระบบทางเดินอาหาร โดยเริ่มจากปากไปยังหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กตอนต้น ลำไส้เล็กตอนกลาง ลำไส้เล็กตอนปลาย ช่วงลิ้นเชื่อมต่อก่อนถึงลำไส้ใหญ่กระพุ้งแรกของลำไส้ใหญ่ และลำไส้ใหญ่
จนถูกถ่ายออกมากับอุจจาระ แคปซูลจะบันทึกภาพภายในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งแพทย์จะนำมาวิเคราะห์ต่อไป
การตรวจวินิจฉัยด้วยการแคปซูลสามารถ
รายงานผลและประมวลแสดงผลได้อย่างละเอียด ถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน ขั้นตอนการวินิจฉัยง่าย สะดวก และปลอดภัยต่อผู้ป่วย ที่สำคัญแพทย์สามารถนำผลการตรวจวินิจฉัย ไปใช้ประกอบเป็นแนวทางในการบำบัดรักษาได้อย่างมีประสิทธิผลดียิ่ง
วิธีการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
ในระยะแรกของโรคจะใช้การผ่าตัด
แต่หากไม่สามารถเอารอยโรคออกได้หมดจะใช้การฉายรังสี
และการให้เคมีบำบัดร่วมด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการรักษา
การทำการผ่าตัดรักษา อาจต้องตัดลำไส้ออกจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะของโรค
ถ้าเป็นการผ่าตัดส่วนของลำไส้เล็กส่วนปลายจะเรียกว่า ileostomy ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่สำคัญของศัลยกรรมระบบทางเดินอาหาร โดยเป็นการตัดต่อลำไส้และการผ่าตัดยกลำไส้มาเปิดที่ผนังหน้าท้อง
ระหว่างการผ่าตัดลำไส้เล็ก ศัลยแพทย์อาจต้องทำการตัดต่อลำไส้และนำลำไส้ส่วนปลายเปิดไว้ที่ผนังหน้าท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดการอุดตันของลำไส้ส่วนปลาย
หรือเกิดการอักเสบเน่าตายของผนังลำไส้ที่รุนแรงและกินบริเวณกว้าง
-----------------------
http://www.cancer.gov/cancertopics/pdq/treatment/smallintestine/Patient/page1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ