ในการรักษาผู้ป่วย HIV-1 นั้น มีขบวนการให้การรักษาด้วยการใช้ยาต้านไวรัสหลายชนิดร่วมกัน ได้แก่ nelfinavir, saquinavir, atazanavir ซึ่งเรียกการรักษานี้ว่า The
highly active anti-retroviral therapy (HAART) ทั้งนี้
เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสในผู้ป่วย HIV
เนื่องจากการใช้ยาต้านไวรัส
(HAART) ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย HIV-1 Positive ได้เป็นอย่างมาก แต่ปรากฏว่าในระยะยาวการใช้ยาต้านไวรัส (HAART)
ทำให้เกิดภาวะ metabolic syndrome ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด, ความผิดปกติหรือความเสื่อมของเนื้อเยื่อไขมันในร่างกาย (lipodystrophy)
และอาการดื้อต่ออินซูลิน (IRS) เนื่องจากยาต้านไวรัส (HAART) จะไปยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส (protease) ที่มีผลต่อขบวนการผลิตอินซูลินในผู้ป่วย
HIV นั่นเอง
การศึกษาพบว่า การให้การบำบัดด้วย thymoquinone
(TQ) (2.5 ไมครอน) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่อยู่ในน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ หรือ Black Seed Oil มีนัยสำคัญในการยับยั้งผลกระทบที่เกิดจากการใช้ยาฆ่าไวรัส
(nelfinavir) โดยจะไปเพิ่มระดับเอนไซม์ในการต้านอนุมูลอิสระ โดยที่ทั้ง thymoquinone (TQ) และน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ จะไปกระตุ้นกลูโคสให้เพิ่มการหลั่งอินซุลินได้มากขึ้น
และมีประสิทธิภาพในการยับยั้ง
ผลกระทบที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
สรุปผลการวิจัยในครั้งนี้ ได้ชี้ให้เห็นว่า การยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส (Pl) ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ
ที่เป็นอันตรายต่อตับอ่อน β-cells ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า
thymoquinone (TQ) สามารถนำมาใช้เป็นตัวแทนในการรักษาที่มีศักยภาพ
ในกรณีของผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาต้านไวรัส เพื่อให้ตับกลับมาทำหน้าที่ในการผลิตอินซูลินได้ตามปกติ
----------------------------
Source
: http://ebm.rsmjournals.com/
ผลการวิจัยเรื่อง : HIV-1
Protease Inhibitor Induced Oxidative Stress Suppresses Glucose Stimulated
Insulin Release : Protection with Thymoquinone
Tulane University Health Sciences Center,
Department of Pharmacology,
New Orleans, LA, USA
Received November 3, 2008.
Accepted January 8, 2009.
Copyright 2009 by the Society for
Experimental Biology and Medicine
แปลโดย : KAMIL HABBTUSSAUDA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณากรอกชื่อ หรือนามแฝง หรืออีเมลล์ด้วยค่ะ